เมื่อช่วงเช้าวันที่ 14 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านแม่ต๊อบเหนือ ต.บ้านกาศ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน กว่า 100 คน รวมตัวประท้วง เดินถือป้ายข้อความปมปัญหาข้อขัดแย้งต่างๆกับคู่กรณีพระสงฆ์ สำนักสงฆ์มอเล ในพื้นที่ ภายหลังมีข้อพิพาทกันมานาน โดยชาวบ้านอ้างว่า พระในสำนักสงฆ์มอเลรูปหนึ่งมีการโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก กล่าวหาว่าชาวบ้านมีการข่มขู่จะลอบยิงพระ ซุกซ่อนยัดยาเสพติดใส่รถพระ ยิงหมาวัด รวมถึงวางยาพิษให้พระเณรกิน จนมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียลถูกสังคมภายนอกมองชาวบ้านในแง่ลบ สร้างความไม่พอใจจึงรวมตัวประท้วงเดินไปตามหมู่บ้านมุ่งหน้าไปยังสำนักสงฆ์เพื่อขับไล่พระรูปดังกล่าวออกนอกพื้นที่

ต่อมามีเจ้าหน้าที่ปกครองอำเภอแม่สะเรียง เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรแม่สะเรียง จัดกำลังลงพื้นที่ดูแลความเรียบร้อย จัดให้มีการพูดคุยหาข้อยุติปัญหา โดยให้ส่งตัวแทนมาร่วมพูดคุยรวม 4 ฝ่าย ประกอบไปด้วย ตัวแทนราษฏรบ้านแม่ต๊อบ พระคู่กรณี เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง พระครูอนุสิฐ รัตนคุณ เจ้าคณะตำบลบ้านกาศเขต 2 และ พระครูอนุกุล บุญกิจ เจ้าคณะอำเภอแม่สะเรียง เป็น ประธานคณะกรรมการเจรจา ประชุมหารือในครั้งนี้ ใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง จึงแล้วเสร็จ

กระทั่งเวลา 15.00 น. การเจราจายุติลงโดยมีการบันทึกข้อตกลงระหว่าง พระคู่กรณี ฝ่ายหนึ่ง และ ตัวแทนชาวบ้านแม่ต๊อบเหนือ มีประเด็นสำคัญ คือ พระคู่กรณี ยินดีปฏิบัติตามข้อเสนอของเจ้าคณะตำบล ที่ขอให้ไปปฏิบัติธรรมที่สำนักธรรม ที่ทางคณะสงฆ์จะดำเนินการหาให้โดยมีเงื่อนไขว่า หากพระคู่กรณีไม่พอใจในคำสั่งสามารถอุทธรณ์คำสั่งต่อพระเถรผู้บังคับบัญชาได้ตามพระราชบัญญัติสงฆ์และมติของมหาเถรสมาคม และเพื่อให้การปฏิบัติธรรมศาสนากิจของศาสนกิจ อนุญาตให้พระคู่กรณีอาศัยปฏิบัติธรรมในพรรษานี้ที่สำนักสงฆ์มอเลไปก่อน เมื่อออกพรรษาแล้วต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ตกลงไว้

จากข้อตกลงดังกล่าวทางตัวแทนชาวบ้าน และพระคู่กรณีต่างเห็นพ้องในข้อตกลง โดยห้วงเวลาดังกล่าวให้ทั้งสองฝ่ายยุติเรื่องคดีความบาดหมางที่มีต่อกัน หรืออาจมีต่อกันในวันข้างหน้า พร้อมกันนี้ทางสำนักสงฆ์ยังยินดีมอบกุญแจให้ตัวแทนชาวบ้านแม่ต๊อบเหนือ ไว้เข้าพื้นที่ป่าชุมชนได้ เพื่อให้ทุกฝ่ายช่วยกันรักษาวัตถุ สิ่งก่อสร้างในพื้นที่ร่วมกัน ซึ่งทั้งหมดได้รับทราบตามข้อตกลงโดยจัดทำหนังสือข้อตกลงขึ้น 4 ฉบับ มอบให้กับทางเจ้าคณะตำบล ในฐานะพระเถรผู้บังคับบัญชา พระคู่กรณี ตัวแทนชาวบ้าน และ ตัวแทนฝ่ายปกครอง เก็บไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นทุกฝ่ายได้แยกย้ายกันไปด้วยความเรียบร้อยไม่มีเหตุรุนแรงแต่อย่างใด