เมื่อวันที่ 27 ต.ค. ที่ห้องประชุมเจเคเอ็น 18 ชั้น 3 อาคารเจเคเอ็น เอ็มไพร แอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป ร่วมกับองค์กรนางงามจักรวาลแถลงข่าว ประกาศการเข้าถือครองกิจการองค์กรนางงามจักรวาลอย่างเป็นทางการ โดยมี เอมมี่ เอมเมอร์ริช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารองค์กรนางงามจักรวาล พอลล่า ชูการ์ต ประธานองค์กรนางงามจักรวาล โดยร่วมแถลงข่าวผ่านระบบออนไลน์จากสหรัฐอเมริกา 

แอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ กล่าวว่า มิสยูนิเวิร์สคือความภูมิใจของคนไทย ไม่ใช่เฉพาะธุรกิจของเจเคเอ็น หรือเป็นการเติมเต็มความฝันของตัวเองคนเดียว แต่หมายถึงผู้หญิงทั่วโลก ผู้หญิงข้ามเพศ LGBTQ ดังที่โอปราห์ วินฟรีย์ พิธีกรชื่อดังพูดเสมอว่า การใช้ความสามารถ บุคลิกภาพ สิ่งที่เรามีอยู่ คือ ความท้าทาย ดิฉันเกิดมาเป็นผู้หญิงข้ามเพศ ข้ามผ่านทุกอย่างในชีวิต จนกลายมาเป็นคอนเทนต์ให้กับคนไทยและต่อไปนี้ นี่คือแพลตฟอร์มที่จะยกระดับตัวเราที่จะสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนทั่วโลก

“สำหรับผู้หญิงที่จะได้มงกุฎมิสยูนิเวิร์ส เรามองหาคนที่เป็น ผู้นำเชิงปฏิรูป เป็นผู้หญิงที่นำพาแรงบันดาลใจ จิตวิญญาณให้กับทุกคน แต่แน่นอน ต้องสวยจึ้งด้วย!!!!” แอน-จักรพงษ์ ย้ำ

ด้วยความเชื่อมั่นต่อองค์กรมิสยูนิเวิร์ส ที่มีอายุยาวนาน 70 ปีว่า เป็นความขลังที่ไม่ต้องอธิบาย การเข้าไปเจรจา และท้ายที่สุดได้กลายมาอยู่ในเจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป 100% การเข้าไปเป็นเจ้าขององค์กรมิสยูนิเวิร์ส หมายถึงการที่เราจะสามารถปฏิวัตินำจักรวาลนี้ออกสู่สายตาคนทั่วโลกในรูปแบบใหม่ๆ เพียงแต่เปลี่ยนเจ้าของเป็นผู้หญิงคนแรก และผู้หญิงข้ามเพศเป็นเจ้าของเท่านั้นเอง

แอน-จักรพงษ์ กล่าวอีกว่า จะทำเวทีนี้ให้ดีที่สุด เราจะมีมงกุฎใหม่ ทีมงานใหม่ การรันโชว์ที่ปฏิรูปใหม่แม้มีเวลาจำกัด แต่สิ่งที่จะทำให้ดีที่สุด วันนี้ เราเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เราเป็นเจ้าของ 100% การประกวดอยู่บนพื้นฐานของความยุติธรรมระดับสากล รูปแบบการประกวดยังคงเหมือนเดิม แต่จะมีการเปลี่ยนกติกาเพิ่มเติม ผู้หญิงที่เข้าประกวดต้องอายุไม่เกิน 27 ปี จะแต่งงาน หย่าร้าง หรือเป็นผู้หญิงข้ามเพศ สามารถเข้ามาประกวดได้ นับเป็นเวทีประกวดเวทีแรกของโลกที่ให้ความเท่าเทียม ในเรื่องสิทธิการเป็นมนุษย์และผู้หญิง

สำหรับเม็ดเงินที่ลงทุน ผู้ถือครองลิขสิทธิ์ไทยคนแรก เผยว่า เพราะการซื้อไม่ได้ซื้อตัวธุรกิจเท่านั้น แต่การที่เราคุยกับ Endeavor Group Holdinhs,Inc. บริษัทแม่ของ ​IMG Worldwide,LLC โดยได้ดีลที่จะเข้าไปซื้อองค์กรมิสยูนิเวิร์ส 100% พร้อมทั้งยังจะได้ในส่วนของกีฬามาด้วยอีก 5 บริษัทที่เป็นบริษัทในเครือมาทั้งหมด โดยซื้อมาในราคาพันกว่าล้านบาท โดยเป็นเจ้าของคนเดียว 100 เปอร์เซ็นต์ การลงทุนนี้คาดว่าจะได้คืนภายใน 2-3 ปี เพราะบริษัทมีแผนที่จะพัฒนาแบรนด์ดิ้งของมิสยูนิเวิร์ส ที่ไม่ใช่แค่การทำประกวดนางงาม แต่จะขยายไปในหมวดไลฟ์สไตล์ 9 ด้าน ได้แก่ 1.ลิขสิทธิ์การจัดประกวดมิสยูนิเวิร์สทั่วโลก 100 กว่าประเทศ 2.ลิขสิทธิ์การจัดประกวดประเทศเจ้าภาพ 3.ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ต่างๆ 4.การจำหน่ายบัตรเข้าชมการประกวด 5.ลิขสิทธิ์การถ่ายทอด 6.เรียลิตี้โชว์ 7.โปรดักชั่น 8.การประกวดนางงาม 9.โฆษณา

“ไลฟ์สไตล์โปรดักต์ที่เกิดขึ้น ทุกอย่างล้วนมีจุดกำเนิดมาจากศรัทธาของแบรนด์ ฐานแฟนคลับหนาแน่นมาก จากช่วงเวลาที่ผ่านมา คือ การพัฒนโปรดักซ์ ไม่ว่าจะเป็น แฟชั่น เสื้อผ้า หน้าผม กระเป๋า เครื่องสำอาง น้ำดื่ม เมื่อ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา มีมหาเศรษฐีระดับโลกได้เดินทางมาเจรจาธุรกิจถึงเมืองไทย โดยมาคุยในเรื่องการขยายแบรนดิ้งเพื่อนำไปสู่ในการทำเพนเฮาส์ เครื่องบินเจ็ต ชุดชั้นในไฮเอนด์ โรงเรียนสอนนางงาม เป็นต้น”  แอน-จักรพงษ์ กล่าว

ในส่วนของการบริหารงาน แอน-จักรพงษ์ เปิดเผยว่า “การจัดประกวดมิสยูนิเวิร์สยังคงให้พอลล่า และเอมมี่ ทำหน้าที่ตามเดิม ขณะที่การเป็นเจ้าของมิสยูนิเวิร์สจะไม่มีการตัดสินจากเจ้าของ ไม่มีการจิ้ม ไม่เลือก 100 เปอร์เซ็นต์ ทุกเวทีเจ้าของถ้าจะทำก็ทำได้ แต่ควรทำไหม มันชัดเจนอยู่แล้วว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ เราอยากให้บริษัทถูกพัฒนาหรืออยากจะเอาใจตัวเอง อยากมองระยะยาวที่จะอยู่คู่กับจักรวาลตลอดไป” สำหรับการจัดประกวดมิสยูนิเวิร์สครั้งต่อไป จะออกอากาศทางช่องเจเคเอ็น 18 ในวันที่ 14 มกราคม 2566 ตามเวลาของประเทศเจ้าภาพ และตอนนี้มีคนเสนอเป็นประเทศเจ้าภาพถึงปี 2024 แล้ว ส่วนแต่ละปีจะเป็นประเทศใดนั้น ขออุบไว้ก่อน อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ ทุก 2 ปี เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของไทย

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวถามว่า จากกรณีที่เจ้าของลิขสิทธิ์คนเดิม โดนัลด์ ทรัมป์ เคยก้าวสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา สำหรับ แอน-จักรพงษ์ มีเป้าหมายจะปูทางสู่บทบาทนักการเมืองด้วยหรือไม่ในอนาคตนั้น ประเด็นนี้ แอน-จักรพงษ์ กล่าวว่า ถ้าว่าจะเป็นนักการเมือง ทุกสิ่งทุกอย่างถ้ามีแรงสนับสนุนจากประชาชน ก็พร้อมเสมอ.