เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ที่ศูนย์ควบคุมกลาง (CCB ลาดกระบัง) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เป็นประธานทดสอบระบบการจัดเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติพิเศษแบบไม่มีไม้กั้น (Multi-lane Free Flow) หรือ ระบบ M-Flow บนทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 9 (M9) หรือวงแหวนกาญจนาภิเษก (บางปะอิน-บางพลี) ของกรมทางหลวง (ทล.) เพื่อแก้ไขปัญหารถติดหน้าด่าน และเตรียมความพร้อมก่อนให้บริการ

นายศักดิ์สยาม เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ เพื่อทดสอบระบบอุปกรณ์เชื่อมต่อและระบบควบคุมของระบบ M-Flow พบว่าสามารถดำเนินการได้ตามสมมติฐาน หลังจากที่มีทดสอบนำรถเข้าใช้ระบบมีการบันทึกกล้องตรวจจับป้ายทะเบียน สามารถอ่านหมายเลขทะเบียน และส่งข้อมูลมายังระบบหลังศูนย์ควบคุมได้ เพื่อให้ตรวจสอบความแม่นยำในระบบอีกครั้ง ขณะนี้ระบบสามารถทำงานได้ 98.5% แล้ว คาดว่าอีก 2-3 เดือน ระบบที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) มีความสมบูรณ์ในการใช้งาน 100%  

นอกจากนี้จะเปิดทดสอบระบบเสมือนจริงแบบครบวงจร (Soft Opening) ในเดือน ต.ค.64 จากนั้นจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบระบบ M-Flow ครบทั้ง 4 ด่าน ได้แก่ ด่านทับช้าง 1 ด่านทับช้าง 2 ด่านธัญบุรี 1 และ ด่านธัญบุรี 2 ภายในเดือน ม.ค.65 ต่อไป ทั้งนี้จะขยายผลมาใช้กับทางด่วนฉลองรัฐของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ระยะแรกจำนวน 3 ด่าน ได้แก่ ด่านจตุโชติ ด่านสุขาภิบาล 5-1 และ ด่านสุขาภิบาล 5-2 ภายใน มี.ค.65 ก่อนขยายผลมาใช้กับทางด่วนฉลองรัฐระยะที่ 2 บูรพาวิถี และ กาญจนาภิเษก รวมทั้งมอเตอร์เวย์หมายเลข 7 หรือ M7 กรุงเทพฯ-บ้านฉาง ภายในปี 65 หรืออย่างช้าต้นปี 66

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า สำหรับอัตราค่าบริการใช้ระบบ M-Flow คิดตามประเภทรถที่ต้องชำค่าผ่านทางในปัจจุบัน แบ่งเป็นรถขนาด 4 ล้อ ราคา 30 บาท/ด่าน รถขนาด 6 ล้อ ราคา 50 บาทต่อด่าน และ รถขนาด 10 ล้อขึ้นไป ราคา 70 บาทต่อด่าน สำหรับ M9 มีระยะทาง 64 กม. อัตราค่าผ่านทางคิดไม่เกิน 50 สตางค์/กม. ทั้งนี้ ทล. บูรณาการร่วมกับการ กทพ. กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และ ตำรวจทางหลวง เพื่อเตรียมมาตรการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่ฝ่าฝืนไม่ชำระค่าผ่านทาง รวมทั้งปรับแก้กฎหมายมารองรับเพื่อการบังคับใช้เป็นไปตามมาตรฐานสากลมากขึ้น ซึ่งในต่างประเทศมีอัตราค่าปรับที่แพงมาก  

ขณะที่ไทยสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนไม่ชำระค่าผ่านทางจะมีอัตราโทษปรับ 10 เท่าจากค่าผ่านทางที่ต้องชำระในด่านที่ใช้บริการนั้นๆ เช่น รถ 4 ล้อ ต้องจ่าย 30 บาทต่อด่าน จะปรับเป็น 300 บาท ส่วนรถ 6 ล้อ ต้องจ่าย 50 บาทต่อด่าน จะเป็น 500 บาท และ รถ 10 ล้อ ต้องจ่าย 70 บาทต่อด่าน จะเป็น 700 บาท ขณะเดียวกันหากยังฝ่าฝืนอยู่ไม่ยอมจ่ายหรือค้างชำระจะมีผลเมื่อนำรถไปต่อภาษีประจำปีกับ ขบ. ซึ่ง ขบ. จะตรวจสอบข้อมูล หากพบว่าค้างจ่ายก็ต้องจ่ายให้เรียบร้อยก่อน ทาง ขบ. ถึงจะดำเนินการต่อภาษีรถประจำปีให้

นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ระบบ M-Flow จะช่วยแก้ปัญหารถติดหน้าด่านได้ เพราะมีประสิทธิภาพในการระบายรถหน้าด่านได้เร็วขึ้น 5 เท่า หรือ 2,000 คัน/ช่อง/ชม. โดยใช้ความเร็วได้สูงสุดอยู่ที่ 160 กม./ชม. แต่กฎหมายกำหนดอยู่ที่ 120 กม./ชม. เมื่อเทียบกับระบบชำระด้วยเงินสด หรือระบบชำระค่าผ่านทางอัตโนมัติ เช่น เอ็มพาส (M-Pass) และ อีซี่พาส (Easy-pass) อยู่ที่ 400 คัน/ช่อง/ชม. นอกจากนี้ระบบดังกล่าวจะช่วยลดค่าใช้จ่ายเรื่องบุคลากรในอนาคต โดยหันมาใช้เทคโนโลยีในการเข้ามาทำงานแทน รวมทั้งช่วยลดการสัมผัส เพราะไม่ต้องใช้บัตรหรือเงินสดในการชำระค่าผ่านทางที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโควิด-19

ส่วนการชำระค่าบริการประชาชนมีความสะดวกมากขึ้น จากเดิมต้องซื้อคูปอง หรือบัตรชำระค่าผ่านทางต่างๆ ในเรื่องนี้จะมีการชำระค่าผ่านทางผ่านโทรศัพท์มือถือหรือทางแอพพลิเคชั่นที่กำลังพัฒนาขึ้น เพื่อรองรับระบบชำระค่าผ่าทางของระบบ M-Flow ขณะเดียวกัน ทล. อยู่ระหว่างพิจารณาจัดโปรโมชั่น อาจจะลดราคา 25-50% ตามความเหมาะสม รวมทั้งช่วงเวลาจัดโปรโมชั่น เช่น 7 วัน 14 วัน หรือ 30 วัน เพื่อไม่ให้กระทบกับเงินหมุนเวียนของกองทุนมอเตอร์เวย์ รวมถึงจูงใจให้ประชาชนมาใช้ระบบดังกล่าว และลดค่าใช้จ่ายประชาชนช่วงโควิด-19 ด้วย

นายศักดิ์สยาม กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่มีฝนตกหนัก มีฝุ่นละออง มีหมอกควัน หรือใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนดหรือมากกว่า 160 กม./ชม. กล้องจะมีประสิทธิภาพทำงานได้มากน้อยแค่ไหนนั้นมีการตรวจสอบ 3 ชั้น คือ 1.ใช้กล้องอัจฉริยะตรวจจับรถได้ 40 คัน/นาที กล้องทำงานได้ 2.นำเจ้าหน้าที่ตรวจสอบระบบหลังบ้าน เพื่อตรวจสอบรถ และ 3.ใช้ระบบ RFID โดยการนำสติ๊กเกอร์ติดด้านในหน้ากระจกรถสมาชิกระบบ M-Flow ซึ่งเรื่องทัศนวิสัยไม่มีปัญหาเพราะระบบทั้งหมดทำงานได้

ส่วนการใช้ความเร็วเกินที่กำหนดนั้นจะมีระบบสัญญาณแจ้งเตือนเพื่อให้เจ้าหน้าที่ทราบ จากนั้นให้ตำรวจทางหลวงดำเนินการตรวจจับต่อไป รวมทั้งกรณีสวมป้ายทะเบียนรถปลอม หรือกระทำผิดกรณีอื่นๆ ด้วย กำลังดำเนินการให้ครอบคลุมทุกกรณี ส่วนการใช้ช่องทางผิดนั้นสามารถใช้ได้ และชำระค่าผ่านทางทีหลัง ซึ่ง ทล. จะแจ้งให้ทราบต่อไป 

ด้านนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดี ทล. กล่าวว่า จะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเป็นสมาชิก เพื่อทดลองใช้บริการและมีส่วนร่วมในการทดสอบเสมือนจริงระบบ M-Flow เดือน ต.ค.64  สามารถลงทะเบียนผ่านทางช่องทาง ดังนี้ 1.เว็บไซต์ : www.mflowthai.com 2.โมบายแอพพลิเคชั่น : Mflow และ 3.จุดบริการที่กรมทางหลวงกำหนด ทั้งนี้สามารถติดตามข้อมูลและรายละเอียดการลงทะเบียนเพิ่มเติม ผ่านทาง เฟซบุ๊ก : https://www.facebook.com/mflowthailand