เมื่อวันที่ 2 พ.ย. น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยถึงประเด็นการเมืองกรณีกระแสการยุบสภาว่า เรื่องการยุบสภาคงให้เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีในการตัดสินใจ แต่ตนคิดว่านโยบายต่างๆของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นโครงการพาน้องกลับมาเรียน โครงการอาชีวะ อยู่ประจำ เรียนฟรี มีอาชีพ และโครงการสถานศึกษาปลอดภัย ซึ่งนโยบายเหล่านี้ได้มีการผลักดันเดินหน้าขับเคลื่อนให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมแล้ว และคิดว่าผู้บริหารในองค์กรหลักศธ.สามารถสานต่อให้เดินหน้าต่อไปได้แม้จะมีการยุบสภาเกิดขึ้นจริง โดยเชื่อว่านโยบายการศึกษาเหล่านี้จะไม่สะดุดอย่างแน่นอน อีกทั้งตนเชื่อมั่นว่าหากมีการเลือกตั้งใหม่เกิดขึ้น รัฐบาลชุดใหม่ที่เข้ามาบริหารประเทศจะมาสานต่อนโยบายการศึกษาที่ตนวางรากฐานไว้ได้ เพราะถือเป็นนโยบายสำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาอย่างแท้จริง

ต่อข้อถามว่าในส่วนของการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งผู้บริหารระดับ 11 ของกระทรวงศึกษาธิการ เนื่องจากมีกระแสว่าผู้บริหารระดับ 11 ที่แต่งตั้งขึ้นในขณะนี้เป็นเหมือนการทดลองงานจะมีผลกระทบต่อการโยกย้ายผู้บริหารระดับสูงอีกรอบในปีหน้าหรือไม่ น.ส.ตรีนุช กล่าวว่า เรื่องนี้ตนยังไม่ขอตอบอะไร แต่ขอให้ยึดความสำคัญของการทำงานเป็นหลัก ซึ่งเรื่องใดที่เป็นนโยบายสำคัญและผู้บริหารแต่ละคนสามรรถขับเคลื่อนได้ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร หรือหากนโยบายใดที่อาจไม่เหมาะกับคนที่ทำอยู่ก็ถือเป็นเรื่องปกติที่อาจจะต้องมีขยับตำแหน่งให้เหมาะสมกับงานของแต่ละคน ซึ่งอาจจะขยับให้คนให้ตอบโจทย์กับการทำงานก็เป็นเรื่องที่ทำได้ตามปกติ เพราะเราเป็นผู้บริหารและสั่งการนโยบายก็ต้องคัดเลือกบุคคลให้เหมาะสมกับงาน ส่วนการแต่งตั้งผู้บริหารระดับ 10 ของ ศธ. ตนจะเร่งจัดสรรบุคคลลงในตำแหน่งที่ว่างโดยเร็ว ซึ่งก็อาจจะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์หน้าได้