สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานจากเมืองเมืองชาร์ม เอล-ชีค ประเทศอียิปต์ เมื่อวันที่ 7 พ.ย. ว่า ข้อตกลงดังกล่าวกำหนดทิศทางเชิงสร้างสรรค์สำหรับสุดยอดการประชุมคอป 27 ซึ่งรัฐบาลของหลายประเทศหวังว่าจะรักษาเป้าหมายที่มีอยู่ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่เลวร้ายที่สุดของภาวะโลกร้อน แม้ว่าวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ตั้งแต่สงครามในยุโรป ไปจนถึงอัตราเงินเฟ้อรุนแรง หันเหความสนใจของนานาประเทศ

เป็นเวลากว่าทศวรรษที่กลุ่มประเทศร่ำรวยปฏิเสธการหารืออย่างเป็นทางการเกี่ยวกับสิ่งที่เรียกว่า “การสูญเสียและความเสียหาย” ซึ่งอธิบายถึงการที่ประเทศร่ำรวยมอบเงินทุนช่วยเหลือประเทศยากจนเพื่อรับมือกับผลที่ตามมาของภาวะโลกร้อน ทว่าเมื่อภัยพิบัติด้านสภาพอากาศรุนแรงมากขึ้น แรงกดดันที่มีต่อการแก้ไขปัญหาจึงเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

ขณะที่ นายฮาร์จีต สิงห์ หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์ทางการเมืองระดับโลกจากเครือข่ายไคลเมต แอคชั่น เน็ตเวิร์ก อินเทอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า การเจรจาในคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ก่อนการรับรองวาระการประชุมนั้น “ท้าทายอย่างยิ่ง”

การหารือเรื่องสภาพอากาศเริ่มต้นภายใต้ความสงสัยว่า รัฐบาลต่าง ๆ กำลังดำเนินการมากพอที่จะจัดการกับภาวะโลกร้อนหรือไม่ เนื่องจากรายงานของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเผยให้เห็นว่า การปล่อยมลพิษทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น ทั้งที่มันควรจะลดลงตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในความตกลงปารีสปี 2558 

ยิ่งไปกว่านั้น ประเทศร่ำรวยยังมีประสิทธิภาพ ในการจัดหาเงินทุนช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนาต่ำกว่าที่ควร อีกทั้งประเทศต่าง ๆ รวมถึงสหรัฐและประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรป (อียู) กำลังเรียกร้องให้มีการจัดหาเชื้อเพลิงฟอสซิลเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นแนวโน้มที่เสี่ยงต่อการชะลอการเปลี่ยนไปสู่พลังงานสะอาดทั่วโลกด้วย

แม้ว่าจะมีแรงกระตุ้นที่มากขึ้นเพื่อจัดการกับการสูญเสียและความเสียหายของภัยพิบัติ ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่เพิ่มขึ้น แต่คอป27 ต้องเผชิญปัญหาในการระดมเงิน เนื่องจากงบประมาณของรัฐบาลชาติตะวันตกลดลงจากการใช้จ่ายจำนวนมาก เพื่อปกป้องพลเมืองของตนจากผลกระทบทางเศรษฐกิจ ของสงครามในยูเครน ซึ่งจากการเปรียบเทียบ งานวิจัยบางชิ้นชี้ว่า การสูญเสียที่เชื่อมโยงกับสภาพอากาศอาจมีมูลค่าสูงถึง 580,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 21.7 ล้านล้านบาท) ต่อปี ภายในปี 2573.

เครดิตภาพ : REUTERS