เมื่อวันที่ 7 พ.ย. ที่โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวตอนหนึ่งในงานแถลงข่าวเปิดตัวแอพพลิเคชั่น SAWASDEE by AOT ว่า ปีงบประมาณ 66 (ต.ค.65-ก.ย. 66) จะเป็นปีที่ชี้เป็นชี้ตายของอุตสาหกรรมการบิน และการท่องเที่ยว ซึ่งไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย แต่จะเป็นทั้งโลกก่อนจะเข้าสู่ดุลยภาพใหม่ เพราะในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้เกิดการล่มสลายของห่วงโซ่อุปทาน และคาดว่าจะไม่สามารถกลับมาได้ภายใน 1 ปี ในขณะที่ปริมาณผู้โดยสารค่อยๆ เริ่มกลับสู่ปกติ ส่วนฝั่งซัพพลาย ผู้ให้บริการงานต่างๆ ของสนามบินกลับล้มหายจำนวนมาก จึงทำให้ในปีงบ 66 จะเจอความไม่สมดุลย์ของ 2 ส่วนตลอดทั้งปี และงานบริการที่โกลาหล

นายนิตินัย กล่าวต่อว่า ทอท. ไม่เคยลดพนักงาน และสนามบินยังสามารถรองรับผู้โดยสารได้เท่าก่อนเกิดโควิด-19 ที่ 142 ล้านคน แต่ขณะที่พนักงานบริการงานภาคพื้นต่างๆ รวมถึงแท็กซี่ ก็ยังไม่กลับมาเท่าปกติ เช่น แท็กซี่ เดิมก่อนโควิด-19 ที่ ทสภ. มีแท็กซี่ลงทะเบียนไว้ 5 พันคัน แต่ปัจจุบันเหลืออยู่แค่ 2.5 พันคัน ส่วนท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) เดิมมี 2 พันคัน ขณะนี้เหลืออยู่ 450 คัน ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลที่ต้องนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาพัฒนาบริการในทุกมิติ โดยจะผลักดันแอพพลิเคชั่น SAWASDEE by AOT ให้กลายเป็น Thailand Travel Super App ตัวช่วยหลักของนักท่องเที่ยวตลอดการเดินทาง

นายนิตินัย กล่าวอีกว่า ก่อนเกิดโควิด-19 ผู้โดยสาร 6 สนามบินของ ทอท. เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 4 แสนคนต่อวัน โดยเมื่อเดือน ต.ค. 65 ผู้โดยสารกลับมาอยู่ที่ประมาณ 1.8-1.9 แสนคนต่อวัน และตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 65 ผู้โดยสารเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2.3-2.4 แสนคนต่อวัน อย่างไรก็ตามคาดว่าในปีงบ 66 ผู้โดยสารจะกลับมาอยู่ที่ 96 ล้านคนต่อปี ฟื้นตัว 68% เมื่อเทียบกับจำนวนผู้โดยสารก่อนเกิดโควิด-19 และคาดว่าในปีงบ 67 (ต.ค. 66-ก.ย. 67) ผู้โดยสารจะกลับมาฟื้นตัวเป็นปกติ 142 ล้านคน เท่ากับก่อนโควิด-19 และจะสามารถทำกำไรได้หลักพันล้านบาท

นายนิตินัย กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีการเปิดให้บริการอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT 1) นั้น ขณะนี้ รมว.คมนาคม ได้มอบให้ ทอท. ศึกษาว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้เร็วกว่าแผนที่วางไว้ว่าจะเปิดในเดือน ก.ย. 66 ได้หรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ต้องพิจารณาเรื่องพื้นที่อาคารผู้โดยสารในปัจจุบันเป็นหลัก ว่า ยังสามารถรองรับผู้โดยสารได้อยู่หรือไม่ โดย ทอท. จะรอติดตามปริมาณผู้โดยสารในช่วงตารางบินฤดูร้อนที่จะเริ่มในเดือน เม.ย. 66 หากพบว่ามีปัญหาเกิดความแออัดของปริมาณผู้โดยสาร จึงจะพิจารณาปรับแผนเปิดให้บริการให้สอดคล้อง แต่เบื้องต้นยังพบว่า ทสภ. ยังไม่ประสบปัญหาความแออัดในอาคารผู้โดยสาร มีเพียงปัญหาติดขัดบริเวณหน้าด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.)

นายนิตินัย กล่าวอีกว่า ขณะนี้ ทอท. ได้แจ้งไปยังผู้ประกอบการร้านค้าที่เช่าพื้นที่ภายในอาคาร SAT 1 ให้เตรียมแผนเปิดให้บริการแล้ว ซึ่งในส่วนนี้รวมคู่สัญญาร้านค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) อย่างกลุ่มคิงเพาเวอร์ด้วย ขณะที่สัญญาสัมปทานของดิวตี้ฟรีปัจจุบัน ทอท. ยังเรียกเก็บในลักษณะส่วนแบ่งรายได้ (Revenue sharing) โดยคำนวณแบ่งรายได้ 233 บาทต่อผู้โดยสาร 1 คน แต่หากปริมาณผู้โดยสารเพิ่มสูงขึ้นไปอยู่ในระดับที่การันตีไว้ในสัญญา คือ 66 ล้านคนต่อปี ทอท. จะเรียกเก็บรายได้จากคิงเพาเวอร์ตามที่เสนอไว้ในสัญญาลักษณะค่าตอบแทนขั้นต่ำ (Minimum Guarantee).