กรณีสามี “ครูพร” ผู้สูญเสียจากโศกนาฎกรรมกราดยิงหนองบัวลำภู สุดปวดใจ ลูกในครรภ์ 8 เดือน ไม่ได้รับการเยียวยา โพสต์พ้อว่า “รัฐบาลเห็นชีวิตเด็กน้อยไร้ค่า ทั้งที่ใกล้ลืมตาดูโลก ถามเลขบัตรประชาชน-ใบเกิด เอาหลักเกณฑ์มาพูด มีมนุษยธรรมบ้างไหม ฝากรัฐบาลมีลูกมีหลานน่าจะเข้าใจดี นี่เหรอคือสิ่งที่รัฐเอาแต่กฎหมายมาอ้างในการเยียวยาลูกชายเหตุผลเพียงเพราะลูกผมสิ้นใจในท้อง ผมเคารพกฎหมายบ้านเมืองเสมอแต่พวกคุณเข้าใจไหมว่ามนุษย์ธรรมมันควรมี”

ล่าสุด เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ดร.ธนบดี ครองยุติ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ศูนย์พัฒนาเด็กตำบลอุทัยสวรรค์ ว่าจากเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 10 คน เสียชีวิต 37 คน หากไม่รวมกับผู้ก่อเหตุก็เป็น 36 คน ซึ่งจังหวัดก็ได้รายงานให้สำนักนายกรัฐมนตรี ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรับบริจาคและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย พ.ศ.2542 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2 ) พ.ศ.2547 เพื่อให้เสนอกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสารณภัย ให้การสงเคราะห์เยียวยา ซึ่งสำนักนายกรัฐมนตรีได้ส่งเรื่องให้กองทุนพิจารณาไปทั้งหมด 34 รายๆละ 200,000 บาท รวมเป็นเงินทั้ง 6 ล้านกว่าบาท และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดหนองบัวลำภู ได้รายงานเพิ่มเติมรายที่เป็นบุตรบุญบุญธรรมและภรรยานอกสมรสของผู้เสียชีวิตของผู้ก่อเหตุ เพื่อให้สำนักนายกรัฐมนตรีได้พิจารณาเพิ่มเติมส่วนที่เหลือ

สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บ 10 ราย ครม.อนุมัติให้การช่วยเหลือแยกเป็นบาดเจ็บเล็กน้อย 4 รายๆละ 50,000 บาทบาดเจ็บสาหัสรายละ 100,000 บาท ทั้งผู้สาหัสและผู้บาดเจ็บจังหวัดก็ได้จ่ายให้ญาติและผู้เสียชีวิตโดยตรงแล้ว ยังคงเหลืออีก 2 ราย(ภรรยาและบุตรนอกสมรสของผู้ก่อเหตุ) โดยกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้พิจารณาว่าสมควรหรือไม่อย่างไร

ส่วนเงินบริจาคของจังหวัดหนองบัวลำภู ที่ผ่านคลังจังหวัดได้เปิดบัญชีรับบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบสารณภัยประจำจังหวัดหนองบัวลำภูได้รับบริจาคประมาณล้านกว่าบาท ซึ่งตามระเบียบก็ต้องโอนกลับไปยังกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย ส่งให้กองทุน และกองทุนใหญ่มีผู้บริจาคเข้ามาสมทบในภาพรวมแล้วประมาณ 6 ล้านบาท ซึ่งสำนักนายกรัฐมนตรี ก็จะจ่ายคืนให้กับผู้บริจาคในภาพรวมของจังหวัดหนองบัวลำภูต่อไป

กรณีสามีครูพร ได้โพสต์เผยแพร่ความอัดอั้นตันใจไปยังสื่อมวลชน ในเรื่องดังกล่าวครูสุภาพรซึ่งเป็นสามีของครูเสกฯและเป็นครูพี่เลี้ยงที่ตั้งครรภ์ได้ประมาณ 8 เดือนแล้วและก็เสียชีวิตพร้อมกับบุตร ทางจังหวัดหนองบัวลำภู ทราบแต่ต้นและได้สอบถามไปยังสำนักนายกรัฐมนตรีแล้วว่าจะให้การสงเคราะห์บุตรนางสุภาพรฯหรือไม่ ซึ่งตามระเบียบในการสงเคราะห์บุตรของสุภาพรฯยังไม่ถือว่าเป็นคนตามกฎหมาย ยังไม่สามารถให้การสงเคราะห์ได้ตามระเบียบ

และสำนักนายกรัฐมนตรีได้โทรมาประสานมายังสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดหนองบัวลำภู โดยขอให้จังหวัดหนองบัวลำภู รีบตั้งเรื่องเสนอไปพร้อมขอให้จังหวัดเสนอความเห็นด้วยว่าควรจะให้การสงเคราะห์น้อง “ซีวิค” ซึ่งเป็นบุตรของครูสุภาพรหรือไม่อย่างไรซึ่งในทางมนุษยธรรม ควรจะให้สงเคราะห์กับใครที่เป็นทายาท ส่วนคณะกรรมการกองทุนฯจะให้การสงเคราะห์หรือไม่ก็สุดแล้วแต่คณะกรรมการฯจะให้การสังเคราะห์ต่อไป ดร.ธนบดีฯปภ.จังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวในที่สุด

ในส่วนของจังหวัดหนองบัวลำภู ได้รับเมตตาจากผู้ใหญ่ใจดี นายสุวิทย์ จันทร์หวร รอง ผวจ.หนองบัวลำภู รรท.ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู ขอความช่วยเหลือ กับสมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัยอุดรธานี โดย มีนายกอบเกียรติ กาญจนะ อดีตรอง ผวจ.หนองบัวลำภู พร้อมคณะได้มอบเงินบริจาคช่วยเหลือสามี ครูพร ไปเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ที่ผ่านมาพร้อมเงินบริจาคสมทบเป็นยอดเงิน รวม 174,111 บาท ซึ่งนายสุวิทย์ฯย้ำว่าเป็นการช่วยเยียวยาน้องซีวิคโดยเฉพาะเพราะเป็นวัตถุประสงค์ของสมาคมนิสิตเก่าจุฬาฯจังหวัดอุดรธานี