กรณีมีชาวบ้านถ่ายคลิป ด.ช.นิรนาม จมน้ำขณะลงไปเก็บเงินในกระทงในงานวันลอยกระทง ที่หนองโป่งนกเป้า หน้าเทศบาลตำบลโนนสูง-น้ำคำ ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี ทหาร 4 นาย ลงไปช่วยและปั๊มหัวใจ ก่อนนำส่งโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ซึ่งอาการโคม่าและเพจข่าวเมืองอุดรธานี ประกาศตามหาญาติ ซึ่งมีชาวบ้านที่ไปเที่ยวงานลอยกระทงได้ถ่ายคลิป ขณะที่น้องคนดังกล่าวเดินเก็บเงินในกระทงเอาไว้ได้ ทราบชื่อภายหลังคือน้องตะวัน วัย 11 ขวบ

เมื่อวันที่ 9 พ.ย. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่หนองโป่งนกเป้า หน้าเทศบาลตำบลโนนสูง-น้ำคำ ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นที่เกิดเหตุ พบ น.ส.สมฤทัย สุขมะโน พนักงานกู้ชีพเทศบาลตำบลโนนสูง-น้ำคำ เดินไปชี้จุดเกิดเหตุ ที่ ด.ช.ตะวัน อายุ 11 ขวบ จมน้ำ ซึ่งอยู่ภายในเกาะกลางหนองน้ำ มีทางเดินคอนกรีตรอบเกาะกลางกว้างประมาณ 1.5 เมตร และมีขั้นบันไดอยู่ในน้ำ 1 ขั้น บริเวณที่เด็กจมน้ำอยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 2-3 เมตร และมีเรือเจ้าหน้าที่ ปภ. ลอยอยู่ห่างจากฝั่ง 5-6 เมตร

น.ส.สมฤทัย เล่าว่า เมื่อคืนนี้เทศบาลได้จัดงานวันลอยกระทง มีชาวบ้านมาร่วมงานจำนวนมาก ซึ่งได้ประกาศห้ามเด็กลงไปเก็บเงินในกระทง เนื่องจากสระลึกประมาณ 4-5 เมตร แต่เนื่องจากมีผู้คนจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ดูแลไม่ทั่วถึง ซึ่งเด็กที่ตกน้ำมาเที่ยวกับพ่อ แม่ และพี่ เด็กจะลงมายืนตรงบริเวณขั้นบันไดในน้ำ เพื่อเก็บเงินในกระทง ไม่นานก็มีคนมาบอกทหารว่า มีเด็กตกน้ำ และชี้จุดบริเวณที่ตกลงไป ทหาร 4 นาย จึงกระโดดลงไปงมหาประมาณ 10 นาที จึงดึงร่างขึ้นมา แต่น้องหมดสติ เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันปั๊มหัวใจประมาณ 30 นาที และนำส่งโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี และอยากฝากผู้ปกครองให้ดูแลเด็กให้ดี เพราะเจ้าหน้าที่ดูแลไม่ทั่วถึง เพราะคนมาเที่ยวจำนวนมาก

ด้านพ่อ ของน้องตะวัน อายุ 42 ปี เล่าว่า พ่อเป็นพนักงานปั๊มน้ำมัน ส่วนแม่เป็นแม่บ้าน มีลูก 3 คน น้องตะวันเป็นคนสุดท้อง เรียนอยู่ชั้น ป.5 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่อุดรธานี ซึ่งน้องเป็นเด็กร่าเริง ขยัน เรียนเก่ง ช่วยเหลืองานบ้านดี ออมเงินไว้ใช้ ถ้าอยากได้อะไรก็จะหารายได้โดยการเก็บของเก่า และเก็บเงินโปรยทานงานกฐิน งานบุญ งานศพ ตอนนี้น้องตะวันอยากได้โทรศัพท์มือถือ จึงหารายได้เพื่อเก็บเงิน ตอนนี้สะสมเงินได้ 500 บาทแล้ว

พ่อน้องตะวัน กล่าวอีกว่า ไม่เคยมาเที่ยวกับลูก มีแต่ให้ลูกมากับแม่ ตนอยู่กับลูกสักพัก ตนก็ได้กลับบ้านก่อน แต่ก่อนกลับได้ขึ้นไปบนสะพาน ยืนมองดูลูกยืนแช่น้ำไม่ลึก เก็บเงินในกระทง และดูว่าแม่ดูแลลูกอย่างไร พอตนแน่ใจว่าจะปลอดภัยจึงกลับบ้าน และมาทราบว่าลูกจมน้ำ คุณหมอแนะนำว่า ลูกมีบุญกับเราแค่นี้ ร่างกายน้องยังเด็ก อวัยวะบางส่วนยังใช้ได้ ทำบุญครั้งสุดท้ายให้กับลูกก่อนจะหมดลมหายใจ จึงปรึกษากับภรรยาและตกลงกันว่า จะบริจาคอวัยวะของลูก ซึ่งหมอได้นำเลือดน้องตะวันส่งไปตรวจ ต้องรออีก 2-3 วัน พอให้ครอบครัวของตนได้ทำใจ

แม่น้องตะวัน อายุ 40 ปี กล่าวว่า เมื่อคืนนี้ได้พาลูก 3 คน ไปลอยกระทงและเที่ยวงานลอยกระทงที่หนองโป่งนกเป้า หน้าเทศบาลตำบลโนนสูง-น้ำคำ โดยเดินเข้าไปลอยกระทงในเกาะกลางน้ำ ส่วนพ่อกลับบ้านก่อน น้องตะวันจะยืนอยู่ทางคอนกรีตชั้นล่าง เห็นเงินในกระทง 10 หรือ 20 บาท ก็อยากได้ตามประสาเด็ก จึงยืนอยู่ริมน้ำรอเก็บเงินในกระทง ตนนั่งกินซูชิมองดูลูกอยู่ใกล้ๆ ซึ่งน้องตะวันก็ได้เดินขึ้นมากินซูชิกับตน ก่อนจะเดินกลับไปเก็บเงิน ระยะเวลาไม่นาน พี่ชายไปหาน้องไม่เห็นจึงมาบอกแม่ และบอกทหารให้งม พบว่าน้องจมน้ำหมดสติ ปั๊มหัวใจแล้วนำส่งโรงพยาบาล

“อาการของน้องหมอบอกว่าสมองตายแล้ว ไตวาย ตับไม่ทำงาน และปอดมีเลือดออกในปอด เพราะน้ำเข้าปอดจำนวนมาก ถ้าถอดเครื่องช่วยหายใจน้องไปได้เลย หมอให้ยากระตุ้น 3 ตัวแล้ว แต่น้องไม่ตอบสนองการรักษา นอนนิ่ง กำลังคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูก กระโดดลงไปเอง มีคนผลัก เดินชน เพราะเป็นคนกลัวตายกลัวจมน้ำ ถ้าต้องลงจะเลือกลงที่ตื้นที่สุดที่ทำได้ แต่จมน้ำแบบไหน เดินลงไปหรือกระโดดลงไปตอนไหน อยู่กับลูกตลอด พี่ชายไปหาน้องไม่เห็น เห็นรองเท้าลอยข้างเดียว จึงวิ่งมาบอกแม่ว่าน้องไม่เห็น จึงวิ่งไปบอกทหารว่า น่าจะจมตรงนี้ เพราะมีฟองอากาศลอยขึ้นมา ทหารกระโดดลงไปช่วย และดึงขึ้นมา” แม่น้องตะวัน กล่าว

ด.ช.ต้น อายุ 13 ปี พี่ชายน้องตะวัน เล่าว่า ตนกับน้องได้เดินรอบๆ หนองน้ำ ตนจะชี้กระทงให้น้องเก็บเงิน จากนั้นตนจึงได้เดินกลับไปที่จุดที่แม่และพี่สาวนั่ง ตนนั่งกินซูชิกับญาติ ไม่นานน้องตะวันก็เดินตามมากินซูชิ เสร็จแล้วเดินกลับไปเก็บกระทงต่อ ตนนั่งกินต่อ 2 ชิ้น ก็รีบเดินออกมาหาน้องแต่ก็ไม่พบ มองหาซ้ายขวาก็ไม่พบ จึงเดินตามหารอบเกาะ แต่ตนเห็นรองเท้าน้องลอยขึ้นมาจากน้ำและมีฟองอากาศ ตนจึงได้เรียกแม่ และให้คนแถวนั้นลงไปช่วยเอาน้องขึ้นมา ส่วนตนก็ไปเรียกเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาช่วย โดยน้องจมลงไปประมาณ 10 นาที ซึ่งตอนเป็นเด็ก ตนก็เคยมาเก็บเงินในกระทง แต่พอโตก็เลิกเก็บ พอน้องมาเก็บ ตนก็จะมาด้วย ตนก็ไม่คิดว่าน้องชายจะจากไปกะทันหันแบบนี้ ตนก็อยากฝากให้ระวังเกี่ยวกับน้ำ ใครว่ายน้ำไม่เป็น ก็ต้องมีผู้ใหญ่อยู่ข้างๆ เพราะอันตรายเกิดขึ้นได้เสมอ อาจจะเกิดเหตุการณ์แบบครอบครัวตนได้