สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน เมื่อวันที่ 10 พ.ย. ว่า นายเอสมาเอล คาทิบ รมว.ข่าวกรองของอิหร่าน กล่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลเตหะรานดำเนินนโยบาย “ความอดทนเชิงยุทธศาสตร์อย่างสมเหตุสมผล” กับซาอุดีอาระเบีย


อย่างไรก็ตาม หากความตึงเครียดและความรุนแรงยังคงเกิดขึ้นต่อไป อิหร่านไม่สามารถรับประกันได้เช่นกันว่า ความอดทนทางยุทธศาสตร์จะหมดลงเมื่อใด ด้านกระทรวงการต่างประเทศของซาอุดีอาระเบีย ยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการ


ย้อนกลับไปเมื่อต้นเดือนนี้ เดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล หนึ่งในสื่อใหญ่ของสหรัฐ รายงานว่า รัฐบาลริยาดแบ่งปันข้อมูลข่าวกรองกับรัฐบาลวอชิงตัน เกี่ยวกับ “ภัยคุกคาม” จากอิหร่าน ว่า กำลังเตรียมการโจมตีซาอุดีอาระเบียภายในอนาคตอันใกล้นี้ “เป็นข้อกล่าวหาที่ไร้สาระและปราศจากหลักฐานอย่างสิ้นเชิง”


อนึ่ง เดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล รายงานโดยอ้างคำกล่าวของ พล.ต.ฮอสเซ็น ซาลามี ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน ( ไออาร์จีซี ) เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ที่ผ่านมา ว่า รัฐบาลริยาดไม่ควรพึ่งพิงอิสราเอลมากจนเกินไป และเรียกราชวงศ์ซาอุดีอาระเบียว่า “ตำหนักแก้ว”


อิหร่าน และซาอุดีอาระเบีย ยุติความสัมพันธ์ทางการทูตต่อกัน เมื่อปี 2559 จากกรณีรัฐบาลริยาดประหารชีวิต ชีค นิมร์ อัล-นิมร์ นักการศาสนาชาวชีอะห์ และการประท้วงในอิหร่านบานปลายเป็นเหตุบุกเผาทำลายสถานเอกอัครราชทูตซาอุดีอาระเบีย ประจำกรุงเตหะราน กระนั้น นับตั้งแต่เดือน เม.ย.ปีที่แล้ว ทั้งสองประเทศเจรจากันอย่างไม่เป็นทางการมาแล้ว 4 ครั้ง โดยมี อิรัก ทำหน้าที่คนกลาง.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES