เมื่อวันที่ 15 พ.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.ท.ธเทพ ไชยชาญบุตร รองโฆษก ตร. กล่าวถึงกรณีชายหญิงตระเวนใช้สลิปปลอมหลอกซื้อของไปทั่วตลาด ที่ จ.อ่างทอง ว่า จากกรณีที่มีข่าวพ่อค้าแม่ค้าตลาดนัดต่างหวาดผวากันอย่างหนัก หลังมีหญิงสาวอายุราว 30 ปี กับชายวัยกลางคนตระเวนซื้อของทั้งเสื้อผ้า ของใช้ภายในตลาดนัดในพื้นที่ จ.อ่างทอง โดยใช้วิธีชำระเงินโอนเงินผ่านแอพพลิเคชั่นธนาคาร และแสดงสลิปการโอนเงินให้ตรวจสอบให้กับแม่ค้าดู แต่ปรากฏว่า หลังตรวจสอบยอดเงินปรากฏว่า ไม่มีเงินเข้ามา ทั้งที่ตอนที่แสดงให้ดูก็มีการโอนเงินสำเร็จแล้วในกรณีดังกล่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝากเตือนพ่อค้าแม่ค้าระมัดระวัง หากมีการโอนเงินผ่านแอพพลิเคชั่น ก็ให้ตรวจสอบยอดเงินทันที จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพเหล่านี้

สำหรับวิธีการตรวจสอบสลิปปลอมมีดังนี้ 1.สังเกตความละเอียดของตัวเลข หรือตัวหนังสือ หากเป็นสลิปปลอม แบบของตัวหนังสือบนสลิป ในส่วนของ ชื่อผู้โอน จำนวนเงิน วันที่ เวลา อาจจะเป็นตัวหนังสือคนละแบบ หรือความหนา บางของตัวอักษรจะไม่เท่ากัน หากเป็นเช่นนี้ อาจตั้งข้อสงสัยได้ว่าเป็นสลิปปลอม 2.สแกน QR Code บนสลิปโอนเงินแบบ E-Slip สามารถตรวจสอบ ชื่อผู้โอน จำนวนเงิน วันและเวลาที่โอนเงินได้ หากยอดเงินไม่ตรง หรือไม่สามารถตรวจสอบได้ ตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนเลยว่าเป็นสลิปปลอม 3.ใช้บริการแจ้งเตือนของธนาคาร ซึ่งจะแจ้งเตือนเมื่อมียอดเงินเข้าบัญชี สามารถนำไปเทียบยอดเงินกับสลิปได้ 4.ใช้ระบบจัดการร้านค้าที่มีฟังก์ชันตรวจสอบสลิปการโอนเงินอัตโนมัติ กรณีที่ร้านค้าออนไลน์มียอดการสั่งซื้อเป็นจำนวนมาก และมีการโอนเงินเข้าหลายรายการ สามารถเลือกใช้ระบบจัดการร้านค้าที่มีระบบตรวจสอบสลิป และยอดเงินเข้าอัตโนมัติ เพื่อช่วยให้ร้านค้าประหยัดเวลา และลดขั้นตอนการตรวจสอบสลิปปลอม

โดยอีกวิธีการหนึ่งที่มิจฉาชีพมักใช้ คือการตั้งโอนล่วงหน้า ซึ่งจะสามารถกดยกเลิกได้ตลอดเวลา หลังจากโชว์สลิปให้กับพ่อค้าแม่ค้าดูแล้ว แนะสังเกตด้านบนสลิป หากเป็นข้อความว่าตั้งโอนล่วงหน้าสำเร็จ แสดงว่าเงินยังไม่เข้า เพราะถ้าโอนเงินสำเร็จ จะต้องเป็นข้อความว่าชำระเงินสำเร็จ ชำระบิลสำเร็จ หรือโอนเงินสำเร็จ หากไม่สังเกตสลิปดีๆ อาจตกหลุมพรางของคนร้ายได้

นอกจากนี้ ผู้ที่กระทำ หรือใช้สลิปปลอม ถือว่ามีความผิดมีความผิดฐานฉ้อโกง ทั้งการแสดงข้อความอันเป็นเท็จและการปกปิดข้อความจริง ซึ่งควรบอกให้แจ้ง โดยความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 341 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

รองโฆษก ตร. กล่าวอีกว่า รัฐบาลมีความห่วงใยปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะการใช้สลิปโอนเงินปลอมนำมาหลอกลวงกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า จึงสั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งปราบปรามและหาทางป้องกันอย่างจริงจัง ซึ่งปัจจุบันศูนย์ PCT มีการเตือนภัยพี่น้องประชาชน รูปแบบกลโกงของคนร้ายรวมทั้งสิ้น 18 วิธี หากสงสัยเกรงจะตกเป็นเหยื่อ สามารถปรึกษาได้ที่ สายด่วน บช.สอท. 1441 หรือ ศูนย์ PCT 08-1866-3000 ผู้เสียหายสามารถแจ้งความผ่านระบบออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com และสามารถติดตามรูปแบบการประชาสัมพันธ์กลโกงได้ที่ pctpr.police.go.th