สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ว่า กระทรวงสาธารณสุขของกัมพูชาประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ว่าการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า และการรักษาระยะห่างอย่างเคร่งครัดตามข้อกำหนดทางสาธารณสุข "เป็นสิ่งที่ต้องปฏิบัติ" เพิ่มอีกใน 15 จังหวัด โดยมาตรการดังกล่าวมีผลบังคับใช้ "อย่างไม่มีกำหนด" เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่กระจาย และการติดต่อโรคโควิด-19
Khmer Times
สำหรับ 15 จังหวัดที่ต้องอยู่ภายใต้คำสั่งดังกล่าว ได้แก่ โพธิสัตว์ พระตะบอง มณฑลคีรี รัตนคีรี กระแจะ สตึงเตรง กำปอต แกบ กำปงธม พระวิหาร ไพลิน เกาะกง กำปชนัง ตโบงฆมุม และอุดรมีชัย ขณะที่อีก 9 จังหวัดอยู่ภายใต้การประกาศไปแล้ว หมายความว่า มาตรการบังคับสวมหน้ากากอนามัยมีผลบังคับใช้ทั่วราชอาณาจักร
ปัจจุบัน กัมพูชามีสถิติผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสมในประเทศอย่างน้อย 86,597 คน ยังเหลือผู้ติดเชื้อต้องรักษาตัวอยู่ในระบบอีกอย่างน้อย 2,961 คน และมีผู้เสียชีวิตสะสมอย่างน้อย 1,718 ราย
ทั้งนี้ รัฐบาลกัมพูชาเริ่มการฉีดวัคซีนเข็มที่สาม เพื่อเป็นบูสเตอร์ ให้แก่บุคลากรการแพทย์และเจ้าหน้าที่ด่านหน้าทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยผู้ที่ได้รับวัคซีนสองเข็มแรกเป็นของซิโนแวคหรือซิโนฟาร์ม จะได้รับการฉีดเข็มที่สามด้วยวัคซีนของแอสตราเซเนกา/ออกซฟอร์ด ส่วนผู้ที่ได้รับวัคซีนสองเข็มแรกของแอสตราเซเนกา/ออกซฟอร์ด จะได้รับวัคซีนของซิโนแวคเป็นบูสเตอร์
A24 News Agency
นอกจากนี้ รัฐบาลกัมพูชาจะซื้อวัคซีนของแอสเตราเซเนกา/ออกซฟอร์ด เพิ่มเติมผ่านโครงการโคแวกซ์ขององค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ ) ขณะที่วัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันประมาณ 1 ล้านโด๊ส ซึ่งได้รับบริจาคจากสหรัฐ จะนำไปฉีดให้แก่กลุ่มชาวชาติพันธุ์ในภาคเหนือของประเทศเป็นหลัก เนื่องจากเป็นวัคซีนที่ฉีดเพียงเข็มเดียว ซึ่งสะดวกแก่การแจกจ่ายให้แก่ประชาชนในพื้นที่ห่างไกล.

เครดิตภาพ : REUTERS