สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 22 พ.ย. ว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐเผยแพร่แถลงการณ์ เป็นการพบหารือระหว่าง พล.อ.ลอยด์ ออสติน รมว.กลาโหมสหรัฐ กับ พล.อ.เว่ย เฟิ่งเหอ รมว.กลาโหมจีน นอกรอบการประชุมรัฐมนตรีกลาโหม สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ที่เมืองเสียมราฐหรือเสียมเรียบ เมื่อวันอังคาร ว่า เป็นการพบหารือแบบตัวต่อตัวครั้งที่สองของทั้งคู่ในปีนี้
Chinese Defense Minister Wei Fenghe arrives to meeting with Defense Secretary Lloyd Austin, their second meeting in six months
— Jack Detsch (@JackDetsch) November 22, 2022
The meeting has begun, the 3rd high level interaction between American and Chinese officials in recent weeks, after Biden and Harris both met Xi Jinping pic.twitter.com/iVpO5vxxz3
ทั้งนี้ พล.อ.ออสติน แสดงความวิตกกังวลอย่างตรงไปตรงมากับ พล.อ.เว่ย เกี่ยวกับกิจกรรมทางทหารของกองทัพปลดปล่อยประชาชน (พีแอลเอ) ในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก โดยเฉพาะการฝึกซ้อมของกองทัพอากาศ ว่า เป็นการ “เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุ”
ขณะเดียวกัน รัฐบาลชิงตันเรียกร้องการเจรจาอย่างสร้างสรรค์ร่วมกับจีน เพื่อบรรเทาความเสี่ยงทางยุทธศาสตร์ และเพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยเชิงปฏิบัติการ นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลี และไต้หวัน
U.S. Defense Secretary Lloyd Austin arrives at the ASEAN defense ministerial for his meeting with Chinese counterpart Wei Fenghe.
— Jack Detsch (@JackDetsch) November 22, 2022
Austin does not respond to a shouted question about whether he’ll raise China’s provocations over Taiwan. pic.twitter.com/RFIBAvYOKP
This morning, I met with PRC Minister of National Defense General Wei Fenghe while attending the ASEAN Defense Ministers Meeting. We discussed U.S.-PRC defense relations, as well as regional and global security issues. https://t.co/DwBsdkZE5s
— Secretary of Defense Lloyd J. Austin III (@SecDef) November 22, 2022
แม้ประเด็นเกี่ยวกับไต้หวันแทบไม่ได้ปรากฏอยู่ในแถลงการณ์ของสหรัฐ แต่ต่อมากระทรวงกลาโหมของจีน ออกแถลงการณ์ว่า พล.อ.เว่ย กล่าวกับ พล.อ.ออสติน ว่าไต้หวัน “คือแกนกลางของแกนกลางผลประโยชน์ของจีน” ไม่ว่าการคลี่คลายเรื่องนี้ จะเป็นไปในแนวทางใดและรูปแบบใด ต้องเป็นการตัดสินใจโดย “ชาวจีนเท่านั้น” หมายความว่า “บุคคลภายนอกไม่มีสิทธิก้าวก่าย” พร้อมทั้งกล่าวเป็นนัยว่า การที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีนตึงเครียดอย่างเป็นที่อยู่นี้ เป็นผลจากการที่รัฐบาลวอชิงตัน “ตัดสินใจผิดพลาดในทางยุทธศาสตร์”.
เครดิตภาพ : REUTERS