สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 22 พ.ย. ว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐเผยแพร่แถลงการณ์ เป็นการพบหารือระหว่าง พล.อ.ลอยด์ ออสติน รมว.กลาโหมสหรัฐ กับ พล.อ.เว่ย เฟิ่งเหอ รมว.กลาโหมจีน นอกรอบการประชุมรัฐมนตรีกลาโหม สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ที่เมืองเสียมราฐหรือเสียมเรียบ เมื่อวันอังคาร ว่า เป็นการพบหารือแบบตัวต่อตัวครั้งที่สองของทั้งคู่ในปีนี้


ทั้งนี้ พล.อ.ออสติน แสดงความวิตกกังวลอย่างตรงไปตรงมากับ พล.อ.เว่ย เกี่ยวกับกิจกรรมทางทหารของกองทัพปลดปล่อยประชาชน (พีแอลเอ) ในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก โดยเฉพาะการฝึกซ้อมของกองทัพอากาศ ว่า เป็นการ “เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุ”

ขณะเดียวกัน รัฐบาลชิงตันเรียกร้องการเจรจาอย่างสร้างสรรค์ร่วมกับจีน เพื่อบรรเทาความเสี่ยงทางยุทธศาสตร์ และเพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยเชิงปฏิบัติการ นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลี และไต้หวัน


แม้ประเด็นเกี่ยวกับไต้หวันแทบไม่ได้ปรากฏอยู่ในแถลงการณ์ของสหรัฐ แต่ต่อมากระทรวงกลาโหมของจีน ออกแถลงการณ์ว่า พล.อ.เว่ย กล่าวกับ พล.อ.ออสติน ว่าไต้หวัน “คือแกนกลางของแกนกลางผลประโยชน์ของจีน” ไม่ว่าการคลี่คลายเรื่องนี้ จะเป็นไปในแนวทางใดและรูปแบบใด ต้องเป็นการตัดสินใจโดย “ชาวจีนเท่านั้น” หมายความว่า “บุคคลภายนอกไม่มีสิทธิก้าวก่าย” พร้อมทั้งกล่าวเป็นนัยว่า การที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีนตึงเครียดอย่างเป็นที่อยู่นี้ เป็นผลจากการที่รัฐบาลวอชิงตัน “ตัดสินใจผิดพลาดในทางยุทธศาสตร์”.

เครดิตภาพ : REUTERS