เมื่อวันที่ 23 พ.ย. ดร.เกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ตนพร้อมด้วย นายชนาธิป ทุ้ยแป รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักทดสอบทางการศึกษา นางสาวจรูญศรี แจบไธสง และนางสาวโชติมา หนูพริก รองผู้อำนวยการสำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา และนักวิชาการศึกษาจาก สวก. และ สทศ. ร่วมลงพื้นที่นิเทศ กำกับ ติดตามการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ณ โรงเรียนธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี โดยเป็นการตรวจเยี่ยมแบบไม่ได้แจ้งล่วงหน้า เพื่อได้เห็นสภาพจริงของโรงเรียน
รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อไปวาา การลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อต้องการส่งเสริมการเป็นโรงเรียนต้นแบบด้านการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับศักยภาพและความสามารถของผู้เรียน เพื่อใช้เป็นต้นแบบในการขยายผลสู่โรงเรียนต่างๆ ที่จัดกิจกรรมการเรียนการสอนอย่างหลากหลายเป็นรูปธรรม และได้เพิ่มเติมเรื่องการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ขับเคลื่อนลงสู่ห้องเรียน โดยให้ผู้อำนวยการโรงเรียนเป็นผู้นำทางวิชาการ พาครูขับเคลื่อนลดภาระครูและนักเรียน รวบตัวชี้วัด ตัดทอนเนื้อหาที่ซ้ำซ้อน โดยยึดหลักเรียนน้อยแต่ได้มาก ให้นักเรียนมีเวลาเรียนรู้ตามความถนัดและความสนใจมากขึ้น พร้อมทั้งส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ให้นักเรียนมีส่วนร่วมได้คิดอย่างเป็นระบบ นำไปสู่การ Apply และ Create ในการสร้างสรรค์งานที่นำไปใช้ได้จริง โดยให้นักเรียนได้เลือกจากความสนใจและความถนัด เพราะจะทำให้นักเรียนมีความอดทนต่อการเรียนรู้ จนสามารถเกิดเป็นสมรรถนะและสร้างนวัตกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการใช้ความรู้และทักษะที่หลากหลายควบคู่กับการบ่มเพาะคุณลักษณะให้ติดตัวไปพร้อมๆ กัน
อีกทั้งโรงเรียนมีบุคลากรที่มุ่งมั่น ตั้งใจในการพัฒนาผู้เรียน สามารถบูรณาการข้ามศาสตร์และเน้นการเรียนรู้จากสถานการณ์รอบๆ ตัวที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันได้ง่าย ซึ่งจะสะท้อนให้ผู้เรียนเห็นคุณค่าของการเรียนรู้ และมีความสุขในการเรียนรู้ เนื่องจากหลักสูตรในปัจจุบันยังคงเป็นหลักสูตรที่อิงมาตรฐานการเรียนรู้ หากผู้สอนสามารถหลอมรวมตัวชี้วัดในแต่ละศาสตร์ได้ จะช่วยลดเวลาในการเรียนรู้แบบแยกส่วน นำไปสู่การเรียนรู้แบบบูรณาการ เพื่อเพิ่มผลลัพธ์การเรียนรู้ได้อย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงพัฒนาการจัดการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี เพื่อให้การจัดการเรียนการสอนให้เชื่อมโยงกับชีวิตจริง โรงเรียนมึความพร้อมสูงมีจัดการเรียนการสอนในห้องเรียน Gifted Intensive Program และห้องเรียนปกติ ที่นักเรียนสามารถเลือกเรียนได้ตามความถนัดและความสนใจ ถือเป็นการส่งเสริมผู้เรียนตามศักยภาพ ครูมีการใช้เทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอนได้อย่างเหมาะสม อีกทั้ง มีการประเมินผลผ่านแบบประเมินหรือแบบทดสอบที่ครูร่วมกันพัฒนาขึ้นและมีการนำไป Try Out เพื่อนำมาใช้ในปีการศึกษาต่อไป
อีกส่วนที่โดดเด่น คือ ห้องสมุดโรงเรียน ซึ่งประกอบไปด้วยส่วนของการค้นคว้า และส่วนของ Studios ที่ครูนำไปใช้ประกอบการจัดการเรียนรู้ให้กับนักเรียนในวิชาต่างๆ ผ่านการดูภาพยนตร์ หรือคลิปวิดีโอ ที่เกี่ยวข้องกับวิชาที่เรียน ไม่ว่าจะเป็นแอนิเมชั่นเรื่องจิตตนคร สัมมาทิฎฐิ และเดอะไดอารี่ ประวัติศาสตร์ชาติไทยกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งกิจกรรมต่าง ๆ ที่โรงเรียนดำเนินการ ส่งผลให้นักเรียนมีความสุขในการเรียนได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ส่วนที่แนะนำเพิ่มเติม คือ โรงเรียนควรนำผลการวัดแววมาใช้ในวิเคราะห์ทั้งเติมเต็มและจัดกิจกรรมให้ตรงกับนักเรียน ซึ่งความสนใจอาจเปลี่ยนจากครูเปลี่ยนกระบวนการสอนก็ได้ สามารถพัฒนาผู้เรียนได้เป็นรายบุคคลเด็กทุกคนมีความเก่งทึ่แตกต่างกัน และมีความเก่งในตัวเองทุกคน แต่ต้องหาว่าเขาเก่งด้านไหนเพื่อที่ครูจะได้ส่งเสริมได้ นำไปสู่การเรียนที่มีความสุขและไม่ยึดติดตำรา รวมทั้งใช้ในการวางแผนการศึกษาต่อและการประกอบอาชีพในอนาคตอีกด้วย อีกทั้งต้องให้ความสำคัญเกี่ยวกับการวัดและประเมินผลเพื่อปรับปรุงและพัฒนา (Formative Assessment) ในระดับห้องเรียนอย่างแท้จริง โดยครูผู้สอนต้องทำการวิเคราะห์ตัวชี้วัดที่ต้องปรับปรุงและพัฒนาของผู้เรียนแต่ละคนจากผลการทดสอบท้ายหน่วยแต่ละหน่วย นำไปสู่การปรับปรุงและพัฒนาผู้เรียนเป็นรายบุคคลตลอดภาคเรียน เพื่อแก้ปัญหาการติด 0 ร มส. ของผู้เรียนต่อไป
“สิ่งที่ชื่นชมโรงเรียนธัญบุรี คือ มีการจัดการเรียนการสอนอย่างเหมาะสมกับสภาพบริบทพื้นที่ โดยเฉพาะการส่งเสริมด้านภาษาต่างประเทศให้กับผู้เรียน เนื่องจากเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับการใช้ชีวิตและการประกอบอาชีพในอนาคต ตรงตามนโยบายของนางสาวตรีนุช เทียนทอง รมว.ศธ. และนายอัมพร พินะสา เลขาธิการ กพฐ. ที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้เรียนอย่างสนุก ได้พัฒนาอย่างเต็มศักยภาพตามความถนัดและความสนใจของตนเอง พร้อมทั้งมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน และมีทักษะชีวิตที่เหมาะสมในโลกยุคศตวรรษที่ 21 หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การที่ได้มาเยี่ยมชมและให้คำแนะนำในวันนี้ จะทำให้สถานศึกษามีการพัฒนาคุณภาพการศึกษาเพิ่มขึ้น เติมเต็มและต่อยอด จากเดิมที่ดีอยู่แล้วกลายเป็นดียิ่งๆขึ้นไปอีก โดยพุ่งเป้าไปที่คุณภาพของผู้เรียนเป็นสำคัญ เพราะพลังของครูที่ทุ่มเทของโรงเรียนนี้และการนำของผู้อำนวยการโรงเรียนที่มีคุณภาพ จะนำไปสู่การเป็นสถานศึกษาต้นแบบต่อไปได้แน่นอน ซึ่งจะมีการติดตามและแลกเปลี่ยนความรู้จากทีม สพฐ. เพื่อให้เป็นโรงเรียนพี่ที่พร้อมช่วยโรงเรียนข้างเคียงได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป” รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าว