สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ว่านายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านนโยบายความมั่นคงประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า เที่ยวบินของสหรัฐ 13 เที่ยว อพยพพลเมืองอเมริกัน ผู้มีถิ่นพำนักถาวรและครอบครัว รวมกันประมาณ 1,100 คน ออกจากอัฟกานิสถาน เฉพาะเมื่อวันอังคาร และคาดว่าขั้นตอนการอพยพจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงสิ้นเดือนนี้ หลังรัฐบาลวอชิงตันได้รับการการันตีจากกลุ่มตาลีบันในเรื่อง "เส้นทางปลอดภัย" จนกว่าการอพยพจะเสร็จสิ้น
อย่างไรก็ตาม ซัลลิแวนกล่าวว่า "ยังเร็วเกินไป" ที่จะตอบว่า สหรัฐจะให้การยอมรับรัฐบาลชุดใหม่ของอัฟกานิสถานหรือไม่ แต่กล่าวเป็นนัยว่า แม้กลุ่มตาลีบัน "มีประวัติไม่ดี" แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นนับจากนี้ "ขึ้นอยู่กับความจริงใจของอีกฝ่าย"
ขณะที่ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์เพิ่มเติม ว่า "ผู้ที่ได้รับสิทธิก่อน" ในการโดยสารเที่ยวบินอพยพของรัฐบาลวอชิงตัน คือ นักการทูตสหรัฐพร้อมสมาชิกในครอบครัว ชาวอเมริกันที่ยังตกค้างอยู่ในอัฟกานิสถาน และชาวอัฟกันซึ่งได้รับวีซ่าลี้ภัยเป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากเคยทำงานให้กับรัฐบาลและกองทัพสหรัฐ ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา
ภาพถ่ายจากดาวเทียมของสหรัฐ เมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นฝูงชนจำนวนมาก รวมตัวกันบริเวณทางวิ่งของท่าอากาศยานนานาชาติ ในกรุงคาบูล
ในเวลาเดียวกัน กองทัพสหรัฐออกแถลงการณ์ เรื่องการสอบสวนกรณี "ชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์" ติดอยู่บริเวณหนึ่งในล้อของเครื่องบินลำเลียงซี-17 ลำที่ออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติฮามิด คาร์ไซ ในกรุงคาบูล เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งในจังหวะที่เครื่องบินเตรียมเทคออฟ มีประชาชนจำนวนมากวิ่งตามและกระโดดเกาะล้อเครื่องบิน.

เครดิตภาพ : REUTERS