สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ต้อนรับและพบหารือกับประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ที่ทำเนียบขาว เมื่อวันพฤหัสบดี โดยหนึ่งในประเด็นสำคัญของการหารือ เกี่ยวข้องกับสงครามในยูเครน ซึ่งผู้นำสหรัฐยืนยันว่า ยังคงมีความพร้อมพบปะแบบตัวต่อตัวกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน “หากผู้นำรัสเซียต้องการยุติการสู้รบ แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ยังไม่มีแนวโน้ม”


อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลมอสโกส่งสัญญาณพร้อมเจรจา ไบเดนกล่าวว่า สหรัฐ “จะไม่ดำเนินการฝ่ายเดียว” แต่จะร่วมกับองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) อีกทั้งต้องเป็นการเจรจา “ที่ไม่กระทบเชิงลบต่อผลประโยชน์ของยูเครน”


ด้านมาครงกล่าวว่า ฝรั่งเศสยืนยันการสนับสนุนยูเครน และในเวลาเดียวกัน จะร่วมหาทางยับยั้งไม่ให้ผู้นำรัสเซีย เป็นฝ่ายยกระดับความรุนแรง และเฟ้นหาแนวทางแก้ไขปัญหาให้เกิดผลเป็นรูปธรรมกว่านี้


ขณะเดียวกัน ผู้นำสหรัฐและฝรั่งเศสหารือกันเกี่ยวกับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี โดยมาครงแสดงความวิตกกังวล ต่อการที่สภาคองเกรสของสหรัฐผ่านกฎหมายลดเงินเฟ้อฉบับใหม่ เมื่อไม่นานมานี้ เป็นงบประมาณ 430,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 14.96 ล้านล้านบาท) เพื่ออุดหนุนผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดยสหรัฐ ซึ่งสหภาพยุโรป (อียู) วิจารณ์ว่า “ไม่ยุติธรรม” กับผู้ประกอบการต่างชาติ


อนึ่ง มาครงถือเป็นผู้นำต่างประเทศคนแรก ที่เยือนสหรัฐอย่างเป็นทางการ นับตั้งแต่ไบเดนรับตำแหน่ง เมื่อปลายเดือน ม.ค. 2564 และนับเป็นครั้งที่สองตั้งแต่รับตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศส เมื่อปี 2560 ซึ่งมาครงเยือนกรุงวอชิงตันอย่างเป็นทางการ ที่ในปีนี้ครบรอบ 200 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการ ระหว่างทั้งสองประเทศ.

เครดิตภาพ : REUTERS