สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ว่า สารกำจัดศัตรูพืชและปุ๋ยเคมีระดับสูง จะถูกใช้เพื่อผลิตพืชผลในแปลงเพาะปลูกขนาดเล็กที่ใช้งานอย่างหนักของจีน แต่การใช้ในปริมาณมากเกินไป สามารถทำให้ดินเสื่อมสภาพและก่อให้เกิดมลพิษในน้ำได้ ขณะที่การใช้อย่างไม่เหมาะสม สามารถส่งผลให้เกิดการปนเปื้อน และทำลายความหลากหลายทางชีวภาพเช่นกัน
กระทรวงเกษตรและกิจการชนบทของจีน ต้องการลดการใช้สารกำจัดศัตรูพืชในข้าว, ข้าวสาลี และข้าวโพด 5% ในช่วงเวลาเดียวกัน รวมถึงเพิ่มการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในปริมาณที่เท่ากันภายในปี 2568
China, the world's top user of pesticides, aims to reduce their use in cultivation of fruit, vegetables and tea by a tenth within three years' time, the farm ministry said on Thursday, in an effort to curb chemicals in the food chain. https://t.co/wu6qdxVOpT
— Reuters Science News (@ReutersScience) December 1, 2022
ขณะเดียวกัน กระทรวงระบุในแผนงานว่า ความมั่นคงด้านอาหารของประเทศ และการจัดหาผลิตภัณฑ์สำคัญต้องคงอยู่เหมือนเดิม ซึ่งจีนเริ่มจัดการปัญหานี้เมื่อปี 2558 โดยมีการรณรงค์ให้หยุดใช้สารเคมีภายในปี 2563
แม้การใช้สารกำจัดศัตรูพืชและปุ๋ยเคมีจะลดลง 16.8% และ 13.8% ตามลำดับ ภายในปี 2564 แต่กระทรวงกล่าวว่า จีนยังคงใช้สารเคมีเหล่านี้มากเกินไป และใช้อย่างไม่มีประสิทธิภาพอีกด้วย
ทั้งนี้ทั้งนั้น กระทรวงระบุว่า การให้ความสำคัญมากขึ้นกับศัตรูตามธรรมชาติ เช่น แมลง ควรเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการกำจัดศัตรูพืชและโรค โดยวิธีการป้องกัน “ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” ดังกล่าว มีเป้าหมายที่จะนำไปใช้ในพื้นที่เพาะปลูกมากกว่า 55% ของประเทศ ภายในปี 2568.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES