เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้ประชุมคณะกรรมการพัฒนาศักยภาพเด็กไทยด้านการศึกษาและสาธารณสุข ซึ่งต้องการวางแผนให้มีการขับเคลื่อน 1 โรงเรียน 1 ครูอนามัย เพื่อแก้ปัญหาสุขภาพนักเรียนไม่ว่าจะเป็นปัญหาสุขภาพจิต สุขภาพร่างกาย การปฐมพยาบาลเบื้องต้น หรือแม้กระทั่งการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน (ซีพีอาร์) เนื่องจากสิ่งเหล่านี้ มีความจำเป็นอย่างมากในชีวิตประจำวัน เพราะหากเด็กมีความรู้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นก็จะสามารถช่วยเหลือผู้อื่นลดการเสียชีวิตได้ ขณะเดียวกันข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ยังพบว่า มีเด็กป่วยด้วยมะเร็งเต้านมด้วยอายุน้อยมากขึ้น ดังนั้น จึงอยากให้ครูมีทักษะความรู้ด้านสุขภาพอนามัย เพื่อที่จะได้ไปต่อยอดความรู้ให้แก่นักเรียนได้ เช่น กินอาหารอย่างไรให้ถูกหลักโภชนาการ หรือการเลือกกินอาหารให้เป็นยา เป็นต้น

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้การขับเคลื่อน 1 โรงเรียน 1 ครูอนามัย จะให้เข้ามาช่วยคัดกรองสุขภาพจิตนักเรียนด้วย โดยจะดูว่าเด็กนักเรียนแต่ละคนมีปัญหาด้านไหนอย่างไร เพื่อประเมินดูว่าเด็กมีความเสี่ยงด้านสุขภาพจิตมากน้อยแค่ไหน จากนั้นจะคัดกรองดูแลไปในทิศทางที่ถูกต้อง และหยุดปัญหาความคิดด้านความรุนแรงของเด็กได้ทัน ซึ่งการดำเนินงานทั้งหมด เราจะทำงานเชื่อมโยงกับ สธ. อย่างไรก็ตามเร็วๆ นี้ จะมีการอบรมทักษะเติมความรู้ให้แก่ครูด้านสุขภาพอนามัย โดยในปีการศึกษา 2566 นอกจากจะมีครูอนามัยเพิ่มขึ้นในโรงเรียนแล้ว จะต้องมีเด็ก 1 ล้านคน มีทักษะทำซีพีอาร์เป็นด้วย.