สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ว่า ข้อมูลจากบริษัทน้ำมันแห่งชาติเกาหลี (เคเอ็นโอซี) ระบุว่า สถานีบริการน้ำมันเกือบ 100 แห่งในเกาหลีใต้ กำลังประสบกับภาวะขาดแคลนเชื้อเพลิงเพื่อให้บริการแก่ลูกค้า โดยประมาณ 60% ของพื้นที่ได้รับผลกระทบ คือกรุงโซลและจังหวัดคย็องกี ซึ่งเป็นบริเวณที่มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่น

สถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่งในกรุงโซล ติดป้ายว่า “น้ำมันเบนซินหมด”


สถานการณ์ดังกล่าว ถือเป็นสถิติที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากรายงานของกระทรวงอุตสาหกรรมเกาหลีใต้ ซึ่งระบุเมื่อวันที่ 28 พ.ย. ที่ผ่านมา ระบุว่า มีสถานีบริการเชื้อเพลิงในประเทศอย่างน้อย 21 แห่งเท่านั้น ที่ ขาดแคลนเชื้อเพลิงให้บริการแก่ลูกค้า


ทั้งนี้ เกาหลีใต้กำลังเผชิญกับการผละงานประท้วงของกลุ่มคนขับรถบรรทุกในอุตสาหกรรมซีเมนต์ ซึ่งยืดเยื้อมานานตั้งแต่ปลายเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา เพื่อเรียกร้องการเพิ่มค่าตอบแทนให้สอดคล้องกับภาวะเงินเฟ้อ และการยกระดับสวัสดิการพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง ถือเป็นการผละงานประท้วงครั้งที่สอง ภายในระยะเวลาไม่ถึง 6 เดือน ของลูกจ้างในสายอาชีพนี้


ยิ่งไปกว่านั้น สมาพันธ์สหภาพแรงงานเกาหลีใต้ (เคซีทียู) ประกาศเตรียมผละงานประท้วง ร่วมกับสหภาพคนขับรถบรรทุกด้วย ท่ามกลางการประเมินว่า ความตึงเครียดรอบนี้ สร้างความเสียหายให้แก่เศรษฐกิจของเกาหลีใต้ วันละไม่ต่ำกว่า 300,000 ล้านวอน (เกือบ 8,000 ล้านบาท) และเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของทวีปเอเชีย จะเผชิญกับภาวะถดถอยในปีหน้า


แม้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของเกาหลีใต้ ที่รัฐบาลใช้คำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อยุติการผละงานประท้วง โดยประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล ผู้นำเกาหลีใต้ “ยื่นคำขาด” ในเรื่องนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และประกาศว่า ผู้ที่ฝ่าฝืนต้องรับโทษตามกฎหมาย ซึ่งรวมถึงการถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับรถบรรทุก การรับโทษจำคุกนานสูงสุด 3 ปี หรือปรับเป็นเงินสูงสุด 30 ล้านวอน (ราว 800,000 ล้านบาท)

อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวกลับยังแทบไม่ได้รับการตอบสนอง จากสหภาพแรงงานคนขับรถบรรทุก ซึ่งยังคงออกแถลงการณ์ประณามว่า รัฐบาลละเมิดกฎหมายแรงงานระหว่างประเทศ และชัดเจนว่า ภาครัฐไม่ต้องการเจรจา.

เครดิตภาพ : REUTERS