เมื่อวันที่ 19 ส.ค. นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC ความว่า ทำไมถึงซ้ำเติมคนติดเชื้อไวรัสโควิด-19

ขณะนี้ประเทศไทยมีผู้ป่วยโควิดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกวัน คนไทยใจอารี ระดมทุนช่วยเหลือหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ อาหาร ยา สมุนไพร หน้ากากอนามัย และอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย และบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าที่ดูแลผู้ป่วย

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ผู้ป่วยโรคโควิดที่รักษาหายแล้ว รักษาและกักตัวที่บ้านต่อจนครบ 3-4 สัปดาห์ พ้นระยะแพร่เชื้อแล้ว ยังถูกสังคมรังเกียจ เจ้านายไม่ให้กลับไปทำงาน เช่น เป็นลูกจ้าง เป็นคนงานทำความสะอาดบ้าน แม่ค้าแถวบ้านไม่ยอมขายของให้ ญาติพี่น้องรังเกียจ เหมือนที่สังคมเคยปฏิบัติต่อผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยวัณโรค ผู้ป่วยโรคเหล่านี้ถูกตีตรา และรังเกียจจากสังคมตั้งแต่อดีต ปัจจุบันก็ยังรังเกียจ แต่ลดน้อยลง

ควรหรือ ที่เราทำแบบนี้??

เชื้อไวรัสโควิดมีชีวิตอยู่ในตัวคนที่ป่วยน้อยถึงปานกลางได้ไม่เกิน 14 วัน  ในคนป่วยหนักได้ไม่เกิน 20 วัน ถึงจะไปตรวจแยงจมูกตรวจหาเชื้อไวรัสซ้ำ สิ่งที่เจอคือ ซากเชื้อตาย ไม่ใช่เชื้อที่มีชีวิตอีกต่อไป ไม่สามารถแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้หลังหายจากโรคนานกว่า 3 สัปดาห์แล้ว

เรายิ่งควรมีเมตตากรุณาต่อคนที่เคยป่วย เพราะบางคนป่วยมากเจียนตายกว่าจะรอดกลับมามีชีวิต บางคนอาจมีสภาพปอดไม่เหมือนเดิมด้วย ตอนป่วยก็ขาดรายได้ หายแล้วนายจ้างไม่ยอมให้กลับมาทำงาน ขาดรายได้ต่อไป ไม่มีงานทำ ไม่มีอะไรจะกิน เราต้องให้เขากลับมาทำงาน คนที่หายป่วยแล้วเขามีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ ไม่แพร่เชื้อให้คนอื่น แต่อย่างไรก็ตามแนะนำให้คนที่เคยติดเชื้อ ฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา ไฟเซอร์ หรือโมเดอร์นา 1 เข็มภายในเวลา 3 เดือน หลังจากที่หายป่วยเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน

ผมเชื่อว่าเกือบทุกคน ไม่ว่าจะฉีดวัคซีนตัวไหนก็ตาม จะติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่ช้าก็เร็ว เราต้องเรียนรู้อยู่กับมัน อย่ารังเกียจผู้ที่ติดเชื้อซึ่งหายเป็นปกติแล้ว พวกเขาควรได้กลับมาใช้ชีวิตเหมือนคนอื่นๆ ควรมีจิตเมตตาให้เพื่อนมนุษย์เสมอ

ขอบคุณเพจ นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์