
เมกะเทรนด์ คือ กระแสการเปลี่ยนแปลงทั่วโลกที่มีผลต่อเศรษฐกิจ ธุรกิจ สังคม วัฒนธรรม และชีวิตความเป็นอยู่ของคนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เมื่อโลกวันนี้หมุนไปพร้อมการเปลี่ยนแปลงอยู่แทบทุกวินาที บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ผู้นำธุรกิจเคมีภัณฑ์แบบครบวงจรระดับสากล จึงไม่เคยหยุดคิดค้น และพัฒนานวัตกรรมพลาสติกและเคมีภัณฑ์ สอดคล้องไปกับ 5 เมกะเทรนด์ คือ Climate Change & Energy Transition การคิดเพื่อแก้ไขภาวะโลกร้อน ครบทั้งวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ ตอบรับกระแสการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ด้วยการใช้เทคโนโลยีสะอาด และลดการใช้ทรัพยากร Demographic Shift การคิดและออกแบบให้เหมาะกับสัดส่วนประชากรที่เปลี่ยนแปลง ทั้งในกลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มคนรุ่นใหม่ Urbanization การคิดเพื่อรองรับการขยายตัวของเมือง การใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป ต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น Health & Wellness การตระหนักในเรื่องของสุขภาพ และสุดท้ายคือเรื่องของ Disruptive Technology ที่เข้ามาเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบัน กลายเป็นแคมเปญสื่อสาร “ยิ่งใกล้คุณยิ่งต้องดี” ตอกย้ำแนวคิด “GC Chemistry for Better Living”


“คนอาจจะยังรู้จักเราในแง่ของคนทำธุรกิจปิโตรเคมีเท่านั้น วันนี้เราได้ปรับเปลี่ยนไปมากกว่านั้นแล้วจึงต้องการสื่อสารให้คนภายนอกเข้าใจว่า GC มีผลิตภัณฑ์และบริการที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ตามเมกะเทรนด์” ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC กล่าวถึงแคมเปญนี้
และฉายภาพให้เห็นความก้าวหน้าของนวัตกรรมพลาสติก และเคมีภัณฑ์ ของ GC ที่เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันแบบครบวงจร ทั้งบรรจุภัณฑ์ เครื่องนุ่งห่ม อุปกรณ์การสื่อสารและอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ยานยนต์ วัสดุก่อสร้าง และพลาสติกเชิงวิศวกรรม เห็นได้ชัดเจนแล้ว อาทิ วัสดุเสริมแรงกลาสไฟเบอร์ ที่มีน้ำหนักเบากว่าเหล็ก 3 เท่า และไม่เป็นสนิม ใช้ทดแทนเหล็กในงานโครงสร้างแนวราบต่างๆ ผลิตภัณฑ์ท่อพลาสติก HDPE ที่มีคุณสมบัติทนทาน สะอาด ลดการปนเปื้อน เคมีภัณฑ์เคลือบอาคารบ้านเรือนเพื่อให้สวยงาม คงทน และทำความสะอาดง่าย
ทุ่นติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์จาก HDPE ทนต่อรังสียูวี แรงกระแทกและมีความคงทนดีเยี่ยม สามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ เคมีภัณฑ์เคลือบผิวกังหันลมที่ใช้ผลิตไฟฟ้า เพื่อความทนทาน ต่อสภาวะแวดล้อม และเคมีภัณฑ์เคลือบแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์สำหรับใช้กับผลิตภัณฑ์ในยุคดิจิทัล


การนำพลาสติกวิศวกรรมมาทดแทนโลหะ ในการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ทำให้น้ำหนักเบา ลดการใช้พลังงาน การใช้สารเคลือบที่ตัวถังรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อความคงทน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การพัฒนาพลาสติกหน่วงไฟ สำหรับแท่นชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ที่ทนต่อแรงกระแทก ปลอดภัยจากไฟฟ้าลัดวงจร และเคมีภัณฑ์เสริมความแข็งแรงของยางรถยนต์ อีกผลิตภัณฑ์หนึ่งคือสารเคลือบหล่อลื่นชนิดของแข็ง (Solid Lubricant) ใช้สำหรับ Landing Gear ของเครื่องบินซึ่งไม่สามารถใช้สารหล่อลื่นประเภทของเหลวที่ใช้กันทั่วไปได้ โดยทำหน้าที่ให้ล้อเครื่องบินไม่เสียดสีมาก ใช้งานได้คงทน การพัฒนาเฟรมจักรยาน 3D Printing ที่มีน้ำหนักเบา ทนทาน สามารถออกแบบได้ตามต้องการ

เตียงพลาสติกขึ้นรูปแบบไร้รอยต่อ แข็งแรง รองรับน้ำหนักได้มาก แต่น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายได้สะดวก ผลิตภัณฑ์พลาสติก High-safe toy ที่นุ่ม ยืดหยุ่น ปลอดภัย สำหรับของเล่นเด็ก ผลิตภัณฑ์นอนวูฟเวน (nonwoven) หรือผ้าที่ขึ้นรูปจากเส้นใยโดยตรง ไม่ผ่านการถักทอ ช่วยลดระยะเวลาการผลิต ทำให้ต้นทุนต่ำลง มีคุณสมบัติกันไฟ ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย ซึมซับได้ดี ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ และลดขยะ ถูกนำมาใช้ผลิตผ้าอ้อมเด็กหรือผู้ใหญ่ ผ้าอนามัย วัสดุเช็ดทำความสะอาดอุปกรณ์การแพทย์ ชุดผ่าตัดแพทย์ และหน้ากากอนามัย นอกจากนี้ GC ยังมีผลิตภัณฑ์ โพลิออล (Polyol) ใช้ในสินค้าประเภทที่นอนเมมโมรี่โฟม (Memory Foam) หรือพื้นรองเท้านักกีฬาที่ช่วยป้องกันการกระเทือนของกระดูก

การพัฒนาหลากหลายบรรจุภัณฑ์ Bioplastic ที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ตั้งแต่ แก้วกระดาษ แก้วใส หลอดดื่มน้ำ ช้อนส้อม ขวดบรรจุ มีการพัฒนาถุงยืดอายุอาหารเพื่อชะลอการสุกของผักและผลไม้ เป็นผลิตภัณฑ์ที่แสงสว่างทะลุได้ดี ปลอดภัยต่ออาหารและระบบนิเวศวิทยา ช่วยเพิ่มระยะการขนส่งผลิตภัณฑ์ผักและผลไม้ และยังเป็นการเพิ่มโอกาสในการขายสินค้า นอกจากนี้ยังมีสารเคลือบกระป๋องอาหารที่ช่วยถนอมอาหาร ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ไม่ว่าอนาคตจะผันผวนไปในทิศทางใด ทางGC ได้ให้ความมั่นใจว่าผู้บริโภคจะใช้ชีวิตบนความเปลี่ยนแปลงนั้นได้อย่างมีความสุข เพราะทุกนวัตกรรมของ GC ถูกคิด ให้ตอบทุกองศาการใช้ชีวิตทั้งในวันนี้ และในอนาคต ชม VDO เพราะ GC มีดีที่ผลิตภัณฑ์ ที่นี่ https://www.youtube.com/watch?v=pGpqdz6xTtU