เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ทำหนังสือตอบข้อสอบถามกรณีพรรคชาติพัฒนากล้า ได้ขอสอบถามเกี่ยวกับการปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง หรือข้อกำหนด ระเบียบ หรือประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง รวม 5 ประเด็น โดยเป็นคำถามเกี่ยวกับรายละเอียดการจัดงานระดมทุน 4 คำถาม คือ 1. การจัดระดมทุนของพรรคการเมืองตามบทบัญญัติมาตรา 62 มาตรา 64 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 สามารถกระทำได้ในช่วง 180 วัน ก่อนครบอายุของสภา พรรคการเมืองจัดกิจกรรมระดมทุนจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ราคาต่อ 1 คน เป็นเงิน 99,999 บาท เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง หรือข้อกำหนด ระเบียบ หรือประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือไม่
2. ในงานจัดระดมทุนดังกล่าวนั้น พรรคการเมือง ผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมือง ส.ส.ของพรรค ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค และสมาชิกพรรค กระทำการแถลงแนวนโยบายของพรรคการเมืองและดำเนินการหาเสียงเลือกตั้งเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง หรือข้อกำหนด ระเบียบ หรือประกาศของ กกต. หรือไม่ 3. ในงานจัดระดมทุนดังกล่าวนั้น มีการติดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ภายในและภายนอกสถานที่จัดงานจัดกิจกรรมระดมทุน ซึ่งมีขนาดความกว้างเกิน 130 ซม. มีขนาดความยาวเกิน 245 ซม. เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง หรือข้อกำหนด ระเบียบ หรือประกาศของ กกต. หรือไม่

4. ในงานจัดระดมทุนดังกล่าวนั้น มีการฉายวีดิทัศน์ซึ่งมีดนตรีประกอบ ถ่ายทอดการจัดกิจกรรมระดมทุนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ช่องทางออนไลน์ต่างๆ เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง หรือข้อกำหนด ระเบียบ หรือประกาศของ กกต. หรือไม่
โดยสำนักงาน กกต. พิจารณาแล้วมีความเห็นว่ากรณีดังกล่าวข้างต้นว่า พรรคการเมืองสามารถจัดกิจกรรมระดมทุนได้ โดยพรรคการเมืองจะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามมาตรา 62 วรรคสอง และมาตรา 64 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ประกอบข้อ 37 ถึงข้อ 41 ของระเบียบ กกต.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2563 ทั้งนี้ ในการจัดกิจกรรมระดมทุนดังกล่าวต้องมิให้มีการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืน มาตรา 73 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ. 2561 (ห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่น ให้งดเว้นการลงคะแนนให้แก่ผู้สมัคร หรือการชักชวนให้ไปลงคะแนนไม่เลือกผู้ใดเป็น ส.ส.)
กิจกรรมระดมทุนดังกล่าว ต้องมิให้มีการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืน มาตรา มาตรา 72 และมาตรา 74 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 (ห้ามมิให้พรรคการเมืองและผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่า มีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย, ห้ามมิให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์ อื่นใดจาก บุคคลผู้ไม่มีสัญชาติไทย นิติบุคคลตามกฎหมายต่างประเทศที่ประกอบธุรกิจหรือกิจการหรือจดทะเบียนสาขาอยู่ใน หรือนอกราชอาณาจักร นิติบุคคลที่จดทะเบียนในราชอาณาจักรโดยมีบุคคลผู้ไม่มีสัญชาติไทยมีทุนหรือเป็นผู้ถือหุ้น เกินกว่าร้อยละสี่สิบเก้า คณะบุคคล หรือนิติบุคคลที่ได้รับทุนหรือได้รับเงินอุดหนุนจากต่างประเทศ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ ดำเนินกิจการเพื่อประโยชน์ของบุคคลผู้ไม่มีสัญชาติไทย หรือซึ่งมีผู้จัดการหรือกรรมการเป็นบุคคล ผู้ไม่มีสัญชาติไทย เป็นต้น)
นอกจากนั้นยังมีคำถามอีกว่า ในงานจัดระดมทุนดังกล่าวนั้น พรรคการเมืองต้องนำไปรวมคำนวณเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งต่อไปของพรรคการเมืองหรือของผู้สมัคร ส.ส. หรือไม่ โดยสำนักงาน กกต. พิจารณาแล้วมีความเห็นว่ากรณีดังกล่าวข้างต้น การจัดกิจกรรมระดมทุนตามมาตรา 62 และมาตรา 64 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 และ ข้อ 37 ของระเบียบ กกต.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2563 พรรคการเมืองหรือผู้สมัคร ส.ส. ไม่ต้องนำไปรวมคำนวณเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งต่อไป.