สำนักข่าวซินหัวรายงานจากกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ว่า นายฝุ่ง ดึ๊ก เตี่ยน รมช.เกษตรและการพัฒนาชนบทของเวียดนาม กล่าวในสัปดาห์นี้ ว่า ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมกาแฟของประเทศ ควรหันเหความสนใจไปที่กระบวนการแปรรูปแบบเข้มข้น เพื่อยกระดับกาแฟของเวียดนาม บนเวทีนานาชาติ และบูรณาการเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ากับการผลิตกาแฟ เพื่อเพิ่มความเชื่อมโยงระหว่างกลุ่มผู้ผลิตตามห่วงโซ่อุปทาน
ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของเวียดนาม ระบุว่า ตลอดช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ เวียดนามส่งออกกาแฟมากกว่า 1.5 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 10.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งสร้างรายได้เข้าสู่เวียดนามรวมมากกว่า 3,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 121,000 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 31.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
สำหรับลูกค้าที่นำเข้ากาแฟจากเวียดนามมากที่สุดตลอดช่วงเวลาดังกล่าว ได้แก่ สหภาพยุโรป (อียู) หลายประเทศในเอเชีย และสหรัฐ โดยผลิตภัณฑ์ซึ่งได้รับความนิยมมากที่สุด คือ กาแฟโรบัสต้า ครองสัดส่วน 75% ของการส่งออกกาแฟทั้งหมดจากเวียดนาม ด้านสำนักข่าวแห่งชาติของเวียดนามรายงานเพิ่มเติมว่า อุตสาหกรรมกาแฟของประเทศซึ่งมีกำลังการผลิตสูงถึง 2.36 ล้านตันต่อปี มีพัฒนาการอย่างไม่หยุดยั้ง และแสดงความเชื่อมั่นว่า จะสามารถแข่งขันให้มีความทัดเทียมกับผลิตภัณฑ์ของต่างประเทศได้
ขณะที่บริษัท โกร อินเทลลิเจนซ์ หนึ่งในผู้ให้บริการข้อมูลการเกษตรระดับโลก รายงานว่า เวียดนามมีปริมาณผลผลิตกาแฟ 2.4 ตันต่อ 1 เฮกตาร์ จัดอยู่ในกลุ่มประเทศผู้ผลิตกาแฟรายใหญ่ของโลก.
ข้อมูล : XINHUA
ภาพ : GETTY IMAGES