สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานจากรัฐแอละบามา สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามคำเตือนของ นายคริสโตเฟอร์ เรย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ซึ่งกล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า รัฐบาลของจีนสามารถใช้แอพพลิเคชั่นติ๊กต็อก เพื่อควบคุมการรวมรวบข้อมูลผู้ใช้งานหลายล้านคนในสหรัฐ หรือควบคุมอัลกอริธึมการแนะนำ ซึ่งอาจถูกใช้สำหรับการดำเนินการที่มีอิทธิพลได้

“มันเป็นเรื่องน่าตกใจที่ติ๊กต็อกเก็บเกี่ยวข้อมูลจำนวนมหาศาล ซึ่งส่วนมากไม่มีความเชื่อมโยงที่ถูกต้องตามกฎหมายกับจุดประสงค์ของการแชร์วิดีโอตามเป็นควรจะเป็นของแอพพลิเคชั่น ด้วยเหตุนี้ การใช้ติ๊กต็อกที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของรัฐ จึงสร้างช่องโหว่ที่ไม่อาจยอมรับได้ต่อปฏิบัติการแทรกซึมของจีน” นางเคย์ ไอวีย์ ผู้ว่าการรัฐแอละบามา กล่าวในแถลงการณ์ พร้อมกับสั่งให้หน่วยงานฝ่ายบริหารดำเนินการตามขั้นตอนที่จำเป็นทั้งหมด เพื่อป้องกันไม่ให้ติ๊กต็อกเข้าถึงข้อมูลอ่อนไหวของรัฐ

อย่างไรก็ตาม โฆษกของติ๊กต็อก กล่าวในแถลงการณ์ว่า ทางบริษัทรู้สึกผิดหวังที่หลายรัฐกำลัง “ทำตามกระแส” เพื่อออกนโยบายโดยอิงจากความเท็จทางการเมือง ซึ่งไม่มีมูลความจริงเกี่ยวกับติ๊กต็อก

ด้าน นายเบรนแดน คาร์ กรรมาธิการของคณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสารของสหรัฐ (เอฟซีซี) ทวีตข้อความ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า มีอย่างน้อย 9 รัฐ ที่ดำเนินการห้ามใช้ติ๊กต็อก “โดยยึดตามภัยคุกคามด้านความปลอดภัยอย่างร้ายแรงที่แสดงให้เห็น”

นอกจากนี้ รัฐอื่น ๆ ของสหรัฐที่ห้ามการใช้ติ๊กต็อกบนอุปกรณ์ของรัฐ มี รัฐเทกซัส, รัฐแมริแลนด์ และรัฐเซาท์ดาโกตา อีกทั้ง รัฐอินดีแอนา ยังฟ้องแอพพลิเคชั่นดังกล่าว โดยกล่าวหาว่าติ๊กต็อกหลองลวงผู้ใช้เกี่ยวกับการเข้าถึงข้อมูลของจีน และกำลังเปิดเผยเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ให้กับเด็ก.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES