วันที่ 16 ธ.ค. ที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศตำรวจภูธรภาค 6 (ศปอส.ภ.6) พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผบช.ภ. พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี รอง ผบช.ภ.6 พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผบก.สส.ภ.6 พ.ต.อ.สารนัยคงเมือง รอง ผบก.สส.ภ.6 พ.ต.อ.อนิวรรตน์ สุรินทวงศ์ ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.6 ร่วมแถลงผลการจับกุมเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ พร้อมของกลาง รถยนต์หรู 4 คัน อาทิ ปอร์เช่ เมอร์เซเดส-เบนซ์ กระเป๋าแบรนด์เนม นาฬิกาหรู ทองคำรูปพรรณ โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนและไอแพดรวม 18 เครื่อง คอมพิวเตอร์ และบัญชีธนาคารที่ใช้ในการกระทำความผิดกว่า 80 บัญชี รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้กว่า 30 ล้านบาท
พล.ต.ต.บัณฑิต เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนในเขตภาคเหนือตอนล่าง ชักชวนสมัครเข้าเล่นผ่านทางเว็บพนันออนไลน์และแอพพลิเคชั่นชื่อ agobet คล้ายกับการเล่นการพนันในบ่อนกาสิโนทั่วไป สามารถเข้าเล่นพนันออนไลน์ได้ตลอดเวลา โดยมีพนักงานคอยให้บริการลูกค้าผ่านทางแอพพลิเคชั่นไลน์ 24 ชั่วโมง จากการสืบสวนทำให้ทราบว่า เครือข่ายพนันออนไลน์ดังกล่าว มีนาย พ. เป็นตัวการและเป็นเจ้าของเว็บพนัน โดยได้ใช้บัญชีของประชาชนที่รับจ้างเปิดบัญชีในพื้นที่ จ.สุโขทัย และจังหวัดใกล้เคียง ในการยักย้ายถ่ายเงินออกไป เพื่ออำพรางเส้นทางการเงิน 4-5 ชั้น
พล.ต.ต.บัณฑิต เปิดเผยต่อว่า ต่อมา ผบช.ภ.6 ได้สั่งการให้จัดกำลังปฏิบัติการเข้าค้นและจับกุม จึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดพิษณุโลก อนุมัติหมายจับจำนวน 5 ราย เป็นนาย พ. เจ้าของเว็บพนัน และผู้รับจ้างเปิดบัญชี 4 ราย และยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนง อนุมัติหมายค้นในพื้นที่ย่านบางนาและมหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 จำนวน 4 จุด สามารถยึดทรัพย์สินและของกลางที่ใช้กระทำผิดเป็นจำนวนมาก จากการตรวจสอบรายการเดินบัญชีพบเงินหมุนเวียนหลายร้อยล้านบาท เบื้องต้นยังพบความเชื่อมโยงไปยังเว็บพนันรายใหญ่อีกหลายรายในจังหวัดกรุงเทพมหานคร และจังหวัดพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งจะได้ติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันและสนับสนุน การจัดให้มีการเล่นพนัน (ออนไลน์) และฟอกเงินฯ ตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478 และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2552” พร้อมขอเตือนไปประชาชนไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการพนันออนไลน์โดยเด็ดขาด เพราะนอกจากจะต้องถูกดำเนินคดีอาญาแล้ว อาจจะต้องถูกยึดอายัดทรัพย์สินอย่างจริงจัง โดยความผิดฐานฟอกเงินนั้น มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับ ตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.
