เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สื่อตะวันตกรายงานว่า ฮาเชม อัล-กาอิลลิ นักเทคโนโลยีชีวภาพ อินฟลูเอนเซอร์และโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ชื่อดังชาวเยเมน ประกาศเปิดตัวโครงการ ‘มดลูกเทียม’ ระดับปัญญาประดิษฐ์เครื่องแรกของโลก ซึ่งเขาให้ชื่อว่า ‘EctoLife’ โดยมุ่งหวังว่าจะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาประชากรเกิดใหม่ที่มีจำนวนลดลงมาก
อัล-กาอิลลิ กล่าวว่า ประดิษฐกรรมของเขา ไม่เพียงจะช่วยให้ผู้หญิงที่มีปัญหาสุขภาพ ต้องผ่าตัดเอามดลูกออกไป สามารถกลับมามีบุตรใหม่ได้อีกครั้ง แต่มดลูกเทียมปัญญาประดิษฐ์นี้ ยังสามารถให้กำเนิดทารกแบบ “ตามสั่ง” ได้ด้วย
โครงการที่มีลักษณะดูคล้ายโรงเพาะทารกนี้ จะใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียนเป็นหลัก มีห้องแล็บทั้งหมด 75 ห้อง แต่ละห้องจะบรรจุมดลูกเทียมได้สูงสุด 400 เครื่อง แต่ละเครื่องจะออกแบบให้มีสภาพคล้ายคลึงกับสภาพภายในมดลูกของคนเป็นแม่ โดยจะมีระบบเซ็นเซอร์คอยตรวจสัญญาณชีพของทารก เช่น อุณหภูมิ ชีพจรและระดับความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือด
อัล-กาอิลลิ ตั้งเป้าหมายไว้ว่า เครื่อง EctoLife ของเขาจะสามารถให้กำเนิดทารกได้สูงสุด 30,000 คนต่อปี และคาดว่าจะมีให้ใช้งานอย่างแพร่หลายได้ภายในเวลาไม่กี่ทศวรรษหลังจากนี้ เขาเชื่อว่าเครื่องมดลูกเทียมของเขาจะมีการผลิตและใช้งานได้จริงภายใน 10 ปีนี้ ถ้าหากมีการยกเว้นข้อจำกัดด้านศีลธรรม
ผู้สื่อข่าวยังรายงานว่า โครงการของ อัล-กาอิลลิ ยังนำเสนอแพ็กเกจพิเศษสำหรับลูกค้าวีไอพีไว้ด้วย ซึ่งจะมีตัวเลือกสำหรับพ่อแม่ให้สามารถคัดกรองพันธุกรรมของตัวอ่อนได้ก่อนที่จะฝังลงในมดลูกเทียม พ่อแม่จะสามารถเลือกระดับสติปัญญา ความสูง สีผม สีตา สมรรถนะทางกายและสีผิวของทารกได้
อัล-กาอิลลิ ยืนยันว่า ฟีเจอร์ทุกอย่างที่นำเสนอในโครงการนี้สามารถทำได้จริง บนพื้นฐานของหลักการทางวิทยาศาสตร์ โดยทีมงานนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรในโครงการ แต่ปัญหาอย่างเดียวในตอนนี้ก็คือ การสร้างอุปกรณ์ต้นแบบที่สามารถรวบรวมฟีเจอร์ต่าง ๆ ไว้ในเครื่องเดียวกันได้
อัล-กาอิลลิ อ้างว่า มดลูกเทียมของเขาสามารถช่วยเหลือหลายประเทศที่ประสบปัญหาจำนวนประชากรลดลงอย่างต่อเนื่อง เช่น ญี่ปุ่น บัลแกเรีย เกาหลีใต้ และอีกหลายประเทศ
นักวิทยาศาสตร์คนดังของโลกโซเชียลกล่าวว่า สถานการณ์ตอนนี้ ขึ้นอยู่กับแนวทางปฏิบัติเชิงจริยธรรม ปัจจุบัน การค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับตัวอ่อนมนุษย์ถูกจำกัดเวลาไว้ที่ 14 วัน เมื่อผ่านช่วงเวลา 14 วันไปแล้ว ตัวอ่อนจะต้องถูกทำลาย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาด้านศีลธรรม-จริยธรรมตามมา
แหล่งข่าว : dailymail.co.uk
เครดิตภาพ : Youtube / Hashem Al-Ghaili
