สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 20 ส.ค.ว่านางกลาดีส์ เบเรจิกเลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ แถลงเมื่อวันศุกร์ ขยายระยะเวลาล็อกดาวน์เมืองซิดนีย์ เมืองเอกของรัฐและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ และอีก 3 เขตใกล้เคียง ได้แก่ เซ็นทรัล โคสต์ บลู เมาเทนส์ และโวลลองกอง ต่อไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย.นี้ "เป็นอย่างน้อย" หลังคำสั่งฉบับปัจจุบันจะครบกำหนดในวันที่ 28 ส.ค.นี้ โดยพื้นที่ดังกล่าวอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดตั้งแต่วันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา 
ขณะที่นับตั้งแต่วันจันทร์ที่ 23 ส.ค.นี้เป็นต้นไป "จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง" ประชาชนในรัฐนิวเซาท์เวลส์ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า เมื่ออยู่นอกเคหสถาน 
นอกจากนี้ เฉพาะ 12 เขตในเมืองซิดนีย์ซึ่งมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสม "ในระดับสูงสุด" ต้องอยู่ภายใต้เคอร์ฟิว นับตั้งแต่วันจันทร์ที่ 23 ส.ค.นี้เป็นต้นไป "จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง" โดยประชาชนจะไม่สามารถออกจากบ้านได้ ระหว่างเวลา 21.00-05.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ยกเว้นบุคคลซึ่งมีใบอนุญาต บุคลากรการแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขด่านหน้า และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานฉุกเฉิน  
ทั้งนี้ รัฐนิวเซาท์เวลส์ยืนยันผู้ป่วยโรคโควิด-19 จากในชุมชนเพิ่มอีก 644 คน และมีผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศอีก 2 คน ทำให้สถิติผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็นอย่างน้อย 16,164 คน ยังมีผู้ป่วยต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลอีก 470 คน และสถิติผู้เสียชีวิตสะสมอย่างน้อย 121 ราย เพิ่มขึ้น 4 ราย.

เครดิตภาพ : AP