สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. ว่า นายนิดา โมฮัมหมัด นาดิม รักษาการ รมว.อุดมศึกษาของอัฟกานิสถาน แถลงเมื่อวันพฤหัสบดี เกี่ยวกับคำสั่งให้สถาบันอุดมศึกษาทุกแห่งในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นของรัฐหรือเอกชน ระงับการจัดการเรียนการสอนสำหรับนักศึกษาหญิง “ทันทีและอย่างไม่มีกำหนด” ว่า เป็นผลจากการที่บรรดานักศึกษาหญิงส่วนใหญ่ “ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบการแต่งตัวตามหลักศาสนา” หมายถึง กฎหมายชารีอะห์ ที่ระบุให้ต้องสวมฮิญาบ

สมาชิกกลุ่มตาลีบันประจำการหน้ามหาวิทยาลัยคาบูล ในกรุงคาบูล เพื่อป้องกันไม่ให้นักศึกษาหญิงเข้าพื้นที่


ขณะที่นายสเตฟาน ดูจาร์ริค โฆษกสหประชาชาติ กล่าวถึงเรื่องนี้ “เป็นอีกครั้งที่รัฐบาลตาลีบันผิดสัญญากับประชาคมโลก” ด้านนายแอนโทนี บลิงเคน รมว.การต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า หากกลุ่มตาลีบันยังคงเดินหน้ามาตรการดังกล่าวต่อไป รัฐบาลวอชิงตันและพันธมิตร “จะดำเนินการตอบโต้ตามความเหมาะสม” แต่ยังปฏิเสธลงลึกในรายละเอียด


ทั้งนี้ นับตั้งแต่หวนกลับคืนสู่อำนาจเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ทศวรรษ เมื่อเดือน ส.ค. 2564 การปกครองของกลุ่มตาลีบันในอัฟกานิสถานแทบไม่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากประชาคมโลก ซึ่งยืนกรานว่า หนึ่งในเงื่อนไขสำคัญ คือการที่รัฐบาลตาลีบันต้องรักษาและยกระดับสิทธิของเด็กหญิงและผู้หญิงในอัฟกานิสถาน


อย่างไรก็ตาม รัฐบาลตาลีบันซึ่งปกครองอัฟกานิสถาน ประกาศเมื่อเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา ห้ามผู้หญิงและเด็กผู้หญิง ใช้บริการสวนสนุกในกรุงคาบูล ตามด้วยการไม่อนุญาตให้ผู้หญิงและเด็กผู้หญิง ใช้บริการฟิตเนสและห้องอาบน้ำสาธารณะ โดยอ้างเหตุผล “เพื่อไม่ให้มีปัญหา”.

เครดิตภาพ : REUTERS