ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2565 ทนายรัชพล ศิริสาคร ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า “เรื่องหนี้ของคู่สมรส ใครจะต้องชดใช้บ้าง อาจจะต้องดูเป็นกรณีไป เพราะต้องดูด้วยว่า จดทะเบียนสมรสกันหรือไม่ และเมื่อหย่ากันแล้วใครต้องชดใช้บ้าง มาดูทีละข้อเลย

1.หนี้ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีอยู่ก่อนสมรส ถือเป็นหนี้ส่วนตัว เจ้าตัวต้องชดใช้เอง ยกเว้นมีการเปลี่ยนแปลงสัญญาระหว่างสมรส
2.หนี้ที่เกิดขึ้นช่วงที่สมรส ส่วนใหญ่จะเป็นหนี้ร่วม ต้องช่วยกันชดใช้หนี้
3.หนี้ที่ฝ่ายใดก่อขึ้น แล้วอีกฝ่ายหนึ่งเซ็นยินยอมให้กู้ ถือเป็นหนี้ร่วม ต้องชดใช้ร่วมกัน
4.หนี้ที่ฝ่ายใดก่อขึ้น แล้วอีกฝ่ายหนึ่งเซ็นเป็นพยานในสัญญากู้ ถือเป็นหนี้ร่วม ต้องชดใช้ร่วมกัน
5.หนี้ที่กู้ร่วมกัน ต้องชดใช้ร่วมกัน
6.หากมีหนี้ร่วมกันอยู่ สามารถหย่าได้ ซึ่งหลังจากหย่าแล้ว ก็ยังต้องใช้หนี้ร่วมกันอยู่ แต่หย่าได้ เรื่องหย่าไม่เกี่ยวกับการชำระหนี้
7.เวลาเซ็นสัญญากู้เงิน เค้ามักจะให้คู่สมรสเซ็นเป็นพยานหรือเซ็นยินยอม ซึ่งสัญญาแบบนั้น ส่วนใหญ่ ต้องร่วมกันใช้หนี้ ลองดูว่าช่วงที่แต่งงานกัน เราได้เซ็นสัญญาอะไรร่วมกันหรือเปล่า ถ้าเซ็นร่วมกัน ก็อาจต้องใช้หนี้ร่วมกัน
8.กู้เงินไปใช้คนเดียว ไม่ได้เอาเงินไปใช้ในครอบครัว ถือเป็นหนี้ส่วนตัว คู่สมรสไม่ต้องร่วมใช้หนี้ เช่น สามีกู้ไปเล่นพนัน ภริยาไม่ต้องร่วมชดใช้ (ฎ159/2537) ยกเว้นถ้าคู่สมรสไปลงชื่อพยานหรือยินยอมในสัญญา อาจต้องร่วมชดใช้

ทั้งหมดนี้ เป็นข้อมูลเบื้องต้น ส่วนจะต้องใช้หนี้กันอย่างไร คงต้องดูรายละเอียดและเอกสารประกอบครับ”…

ขอบคณข้อมูลและรูปภาพ : @ทนายรัชพล ศิริสาคร Fanpage