ปัจจุบันการใช้รถใช้ถนนในชีวิตประจำวันของประชาชนต้องการความปลอดภัย ให้การเดินทาง และการขนส่งเกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ และในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาท กรมการขนส่งทางบกได้ดำเนินการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อให้บริการอำนวยความความสะดวกกับประชาชน

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ผู้คนออกไปไหนไม่ได้ ต้องเว้นระยะห่าง กรมฯ ก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับวิถีชีวิตของประชาชนที่เปลี่ยนไปซึ่งเทคโนโลยีแต่ละนวัตกรรมที่กรมฯ คิดค้นขึ้นมาก็มาช่วยลดขั้นตอน ลดความยุ่งยาก เสริมความปลอดภัยและเพิ่มความสะดวกสบายให้กับประชาชน ขณะเดียวกันก็ลดการทำงานของเจ้าหน้าที่

ด้านเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย กรมฯ ได้มีระบบติดตามการเดินรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุกขนาดใหญ่หรือระบบ GPS เพื่อติดตามและกำกับดูแลพฤติกรรมผู้ขับขี่ให้อยู่ในเส้นทางและควบคุมความเร็วไม่ให้เกินที่กฎหมายกำหนด กว่า 500,000 คัน ทั่วประเทศ

“การทำงานของระบบติดตามการเดินรถเมื่อคนขับรูดใบขับขี่ที่เครื่องอ่านในรถ เพื่อเข้าระบบ GPS จะส่งสัญญาณไปที่ vendor กล่อง GPS ก็จะยิงสัญญาณมาที่ศูนย์ GPS และมาขึ้นที่จอแสดงผลของกรมฯ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยกำกับตรวจดูแลตลอด 24 ชั่วโมง หากเกินกว่า 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมงที่กฎหมายกำหนดในจอแสดงผลจากที่เห็นเป็นสีเขียวจะเปลี่ยนเป็นสีแดง เจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ว่า รถคันนั้นเป็นรถประเภทใด ใครเป็นผู้ประกอบการ ใครเป็นคนขับรถทำให้ที่ผ่านมาผู้ขับรถกระทำผิดน้อยลงกว่าเมื่อก่อน”

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ปัจจุบันรถเมล์ EV รูปทรงทันสมัย ติดตั้งระบบปรับอากาศและระบบฆ่าเชื้อที่เริ่มให้บริการประชาชน เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมและการอำนวยความสะดวกที่กรมการขนส่งทางบกตั้งเป้าปฏิรูปรถเมล์ในกรุงเทพมหานคร ไม่ให้การเดินรถทับซ้อน จนเกิดเหตุใช้ความเร็วแย่งผู้โดยสาร เฉี่ยวชน หรือนำรถเมล์เก่าที่มีอายุการใช้งานมาเป็นเวลานานมาวิ่งให้บริการเหมือนในอดีต พร้อมติดตั้งระบบ AI มากำกับการเดินรถต่าง ๆ มีราคาค่าโดยสารที่มีความคุ้มค่า ทั้งหมด 1,250 คัน และจะขยายให้ครอบคลุม 239 เส้นทางในอนาคต

ในด้านการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน การเดินทางมาติดต่อเพื่อรับบริการของประชาชนเป็นสิ่งที่ทางกรมการขนส่งทางบกต้องการให้เกิดน้อยที่สุด เว้นการติดต่อที่เป็นนิติกรรมตามที่กฎหมายกำหนด ดังนั้นจึงได้ปรับการให้บริการผ่านแอปพลิเคชัน เช่น การจองคิวต่อใบอนุญาตขับขี่ ผ่าน แอปพลิเคชัน DLT Smart ใบขับขี่ดิจิทัลที่นำมาแสดงแทนใบขับขี่ตัวจริง ผ่าน แอปพลิเคชัน DLT QR License การชำระภาษีออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ http://eservice.dlt.go.th/ หรือ แอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax หรือการนำรถยนต์มาต่อภาษีโดยไม่ต้องลงจากรถที่ช่อง เลื่อนล้อต่อภาษี หรือ Drive Thru for Tax ที่สำนักงานขนส่งทั่วประเทศ