เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. นายมานพ คีรีภูวดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ถูกจับข้อหาเรียกรับสินบนโยกย้ายและรักษาตำแหน่งข้าราชการ ว่า การเรียกรับสินบนเพื่อซื้อขายตำแหน่งในหน่วยงานต่างๆ นั้น มีทั่วไปในหลายกระทรวง แต่สำหรับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนั้น มีการซื้อขายตำแหน่งและเรียกค่าคงตำแหน่งไว้สำหรับหัวหน้าอุทยานแห่งชาติ และหัวหน้าหน่วยงานต่างๆ ในกรม โดยมีการส่งส่วยและรับส่วยกันในลักษณะรายปีงบประมาณและรายเดือนด้วย ที่ผ่านมาทราบว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์ในกรมอุทยานฯ หากใครต้องการอยู่ในตำแหน่งสูงๆ ต้องจ่ายเงินที่เรียกเป็นกิโลกรัม โดย 1 กิโลกรัม เท่ากับ 1 ล้านบาท เรียกเก็บตั้งแต่ 5 แสน-20 ล้านบาท โดยเฉพาะอุทยานฯ ทางทะเล ที่ทำเงินเป็นจำนวนมากเนื่องจากมีผลประโยชน์จากการท่องเที่ยวจำนวนมากนั้น

นายมานพ กล่าวต่อว่า ขอถามไปถึงนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ถึงกรณีข่าวเมื่อเดือน ก.ย. 62 ในขณะที่นายวราวุธ เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งใหม่ๆ มีข้อร้องเรียนว่าอธิบดีกรมอุทยานฯ ในขณะนั้นเรียกเก็บส่วยถึง 600 ล้านบาท และจ่ายไปแล้ว 300 ล้านบาท ให้แก่นายวราวุธ และในขณะนั้นนายวราวุธ ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่มาครั้งนี้ อธิบดีถูกจับได้คาหนังคาเขาจากเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน และพบเงินสดเป็นจำนวนมาก ซึ่งสอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่มีการร้องเรียนเมื่อครั้งก่อน

ตนจึงอยากถามท่านรัฐมนตรีว่า ครั้งนี้ท่านจะปฏิเสธอย่างไรว่า ไม่มีการรับส่วยกันจริง เพราะจับได้คาหนังคาเขา หลักฐานครบ และคำถามที่สำคัญกว่านั้นคือ ท่านมีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการรับส่งส่วยกันแบบนี้หรือไม่ อยากฟังคำตอบชัดๆ ว่า ท่านจะตอบว่าอย่างไรต่อ

“ที่รัฐมนตรีบอกว่า ไม่อยากให้ข้าราชการเสียขวัญกำลังใจจากเหตุการณ์ดังกล่าว ขออธิบายใหม่ว่า คนที่เสียขวัญนั้นคงไม่ใช่ข้าราชการ เพราะข้าราชการที่ซื่อสัตย์สุจริต จะกลับยิ่งมีขวัญกำลังใจในการทำงานมากขึ้น เพราะได้มีการทลายเครือข่ายเรียกรับส่วยไปแล้ว ส่วนคนที่เสียขวัญกำลังใจ ก็คงจะมีแต่คนทุจริตเท่านั้น จึงอยากถามท่านด้วยว่า กำลังใจยังอยู่ดีหรือไม่” นายมานพ กล่าว