สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ว่า สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติ เมื่อช่วงรุ่งสางของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ด้วยเสียงข้างมาก 216 ต่อ 212 เสียง และงดออกเสียง 6 เสียง เลือกนายเควิน แมคคาร์ธี แกนนำพรรครีพับลิกัน และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขต 20 ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ให้ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 55
อย่างไรก็ตาม เส้นทางสู่การได้รับชัยชนะในการหยั่งเสียงเลือกประธานสภาล่างสหรัฐของแมคคาร์ธี ต้องผ่านการลงคะแนนมากถึง 15 รอบ นับตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันแรกของการประชุม หลังการเลือกตั้งกลางเทอม เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ปีที่แล้ว ถือเป็นการเฟ้นหาผู้ดำรงตำแหน่งประธานสภา ซึ่งต้องใช้เวลานานที่สุดในรอบ 164 ปีของสหรัฐ ที่ตอนนั้นต้องลงคะแนนกัน 44 รอบ และหลายฝ่ายมองว่า บ่งชี้ความไม่ลงรอยภายในพรรครีพับลิกัน
ขณะที่ผู้นำเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนราษฎร คือนายฮาคีม เจฟฟรีย์ส สมาชิกเขต 8 ของรัฐนิวยอร์ก จากพรรคเดโมแครต ซึ่งถือเป็นนักการเมืองผิวสีคนแรกของพรรคเดโมแครต ที่ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งผู้นำพรรคในสภาล่าง แม้เป็นเสียงข้างน้อยก็ตาม
ทั้งนี้ แมคคาร์ธีกล่าวหลังนำสมาชิกสภาล่างชุดที่ 118 ทั้ง 435 ที่นั่ง สาบานตนเข้าปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการ ว่า การรับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรในนามพรรครีพับลิกัน “คือการกลับมาของการถ่วงดุลอำนาจระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่ายบริหาร” สื่อถึงการที่รัฐบาลวอชิงตันชุดปัจจุบันของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เป็นพรรคเดโมแครต และแม้พรรคเดโมแครตกับพรรครีพับลิกัน มี 49 ที่นั่งเท่ากันในวุฒิสภา แต่วุฒิสมาชิกอิสระ 2 คน เป็นพันธมิตรกับพรรคเดโมแครตมากกว่า
ด้านทำเนียบขาวเผยแพร่แถลงการณ์ของไบเดน แสดงความยินดีกับแมคคาร์ธีและยืนยันการร่วมงานกับสภาล่างภายใต้การนำของพรรครีพับลิกัน ซึ่งได้รับการวิเคราะห์จากหลายฝ่ายว่า จะเป็นงานหนักสำหรับรัฐบาลไบเดนอย่างแน่นอน หนึ่งในนั้นคือการที่กระทรวงการคลังสหรัฐ ต้องขออนุมัติการขยายเพดานหนี้เป็น 31.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,059.12 ล้านล้านบาท) แต่แมคคาร์ธีประกาศแล้วว่า ต้องการให้ส่วนกลางควบคุมและปรับลดงบประมาณหลายด้าน.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES
