เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 ม.ค. ที่อาคารไอราวัตพัฒนา กทม.2 ดินแดง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนำคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตภาวนาถวายพระพรแด่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และพิธีทำบุญวัดคู่เมือง เนื่องในประเพณีวันขึ้นปีใหม่ ประจำปี พ.ศ. 2566 โดยมีสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ข้าราชการ และบุคลากรกรุงเทพมหานคร และประชาชน ร่วมพิธี

สำหรับพิธีเจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตตภาวนาถวายพระพรฯ และพิธีทำบุญวัดคู่เมือง เนื่องในประเพณีวันขึ้นปีใหม่ ประจำปี พ.ศ. 2566 กรุงเทพมหานคร ได้นิมนต์พระสังฆาธิการและเจ้าอาวาสวัดในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 460 วัด ร่วมทำพิธี โดยมี สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี กรรมการมหาเถรสมาคม เป็นองค์ประธานฝ่ายสงฆ์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง นำคณะสงฆ์ และผู้ร่วมพิธี เจริญจิตตภาวนา เพื่อถวายพระพรแด่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา

นายชัชชาติ กล่าวว่า การจัดงานวันนี้เริ่มจากปีที่แล้วเรื่องการจัดงานปีใหม่ ให้เปลี่ยนเป็นการจัดทำบุญแทน เนื่องจากวัดกับเมืองเป็นสิ่งสำคัญ ที่ผ่านมาไม่เคยมีการทำบุญวัดทั้งหมดในกรุงเทพฯร่วมกับเมืองเลย ตั้งแต่สมัยโบราณวัดเป็นแหล่งหล่อหลอมจิตใจ แหล่งวัฒนธรรม พื้นที่สีเขียว การศึกษา เศรษฐกิจ หากกทม.สามารถร่วมกับทางวัดได้เป็นเนื้อเดียวกัน จะทำให้การดูแลประชาชนดียิ่งขึ้น ซึ่งการจัดงานครั้งนี้เป็นนิมิตหมายที่ดีที่สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี มาเป็นประธานการจัดงาน มีพระมาจากวัด 460 วัด ทั้งวัดจีน วัดญวณมาร่วมทั้งหมด ในโอกาสนี้ได้ชี้แจงถึงความร่วมมือระหว่างกทม.กับทางวัดให้ได้รับทราบอีกด้วยนอกจากนี้ได้ร่วมจิตเจริญภาวนาถวายพระพรแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ขอให้ทรงปลอดภัย จากพวกเราทั้งหมดที่ร่วมใจ ระลึกถึงพระองค์ท่าน

ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครมีวัดจำนวน 460 วัด เป็นวัดในสังกัดมหานิกาย 406 วัด ธรรมยุติกนิกาย 43 วัด อนัมนิกาย 7 วัด และจีนนิกาย 4 วัด วัดเป็นสถานที่สำคัญของบ้านเมืองเป็นสถานศึกษา แหล่งรวบรวมสรรพวิทยาการ โดยมีพระสงฆ์เป็นตัวแทนของวัด ในการแสดงบทบาทต่าง ๆ เป็นผู้นำทางจิตใจของประชาชน เป็นศูนย์รวมแห่งความเคารพ เชื่อถือ และการร่วมมือกันให้เกิดความสามัคคี ความเป็นระเบียบเรียบร้อย นอกจากนี้ พระสงฆ์ยังมีบทบาทสำคัญในการควบคุมทางสังคมระดับประเทศ ด้วยเพราะพระสงฆ์เป็นผู้ถือศีลอันบริสุทธิ์ เป็นผู้บำเพ็ญประโยชน์แก่พระพุทธศาสนา และเป็นผู้นำทางสติปัญญา พระสงฆ์จึงเป็นที่เคารพนับถือของบุคคลทั่วไปในสังคม

กรุงเทพมหานครได้เห็นถึงความสำคัญของความร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานคร ในฐานะเมืองกับวัด จึงได้มีนโยบายให้ผู้อำนวยการเขตและเจ้าหน้าที่ไปสำรวจด้านกายภาพ ความต้องการและข้อเสนอแนะเพื่อบูรณาการความร่วมมือระหว่างวัดกับกรุงเทพมหานครในประเด็นต่าง ๆ ซึ่งมีผลสรุปการสำรวจด้านกายภาพจำแนกตามการบริหารจัดการตามนโยบาย “กรุงเทพ 9 ดี” ดังนี้ 1. นโยบาย “ปลอดภัยดี” จากการสำรวจพบว่า วัดในพื้นที่กรุงเทพมหานครส่วนใหญ่มีไฟฟ้าส่องสว่างทั่วถึง

  1. นโยบาย “เดินทางดี” จากการสำรวจพบว่าวัดในพื้นที่กรุงเทพมหานครส่วนใหญ่มีพื้นที่จอดรถยนต์/จักรยานยนต์
  2. นโยบาย “สุขภาพดี” จากการสำรวจพบว่าวัดในพื้นที่กรุงเทพมหานครส่วนใหญ่มีศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่ใกล้เคียง
  3. นโยบาย “สร้างสรรค์ดี” จากการสำรวจพบว่าวัดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ส่วนใหญ่มีการจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมประเพณีที่สำคัญประจำปี
  4. นโยบาย “สิ่งแวดล้อมดี” จากการสำรวจพบว่าวัดในพื้นที่กรุงเทพมหานครส่วนใหญ่มีจุดทิ้งขยะพอเพียง และมีการคัดแยกขยะ
  5. นโยบาย “โครงสร้างดี” จากการสำรวจพบว่าวัดในพื้นที่กรุงเทพมหานครส่วนใหญ่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชน
  6. นโยบาย “บริหารจัดการดี” จากการสำรวจพบว่าวัดในพื้นที่กรุงเทพมหานครส่วนใหญ่ชุมชนมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการและการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ของวัด
  7. นโยบาย “เรียนดี” จากการสำรวจพบว่าวัดในพื้นที่กรุงเทพฯส่วนใหญ่มีการบรรยายธรรม/อบรมธรรมะให้กับประชาชน
    และ9. นโยบาย “เศรษฐกิจดี” จากการสำรวจพบว่าวัดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ส่วนใหญ่ได้รับการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว หรือเป็นหนึ่งในเส้นทางการท่องเที่ยวของชุมชน

สำหรับความต้องการบูรณาการความร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร คือ ต้องการให้กรุงเทพมหานครออกตรวจสุขภาพให้แก่พระลูกวัด, ช่วยดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยภายในวัดและพื้นที่โดยรอบ, ช่วยดูแลรักษาความสะอาด ตัดต้นไม้ ปรับปรุงภูมิทัศน์, ช่วยจัดหาทุนการศึกษาสำหรับพระสงฆ์ ให้การสนับสนุนการจัดงานประเพณีสำคัญ เทศกาล งานบุญต่าง ๆ ของวัด และให้มีการจัดพื้นที่วัดให้เป็นลานวัฒนธรรมชุมชน.