สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ว่า สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งเขตปกครองพิเศษอาเจะห์ ตั้งอยู่ทางเหนือสุดบนเกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย รายงานการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแก่เรือโดยสารลำหนึ่ง ซึ่งล่องมาเกยตื้น เมื่อช่วงบ่ายของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น โดยผู้โดยสารบนเรือมีจำนวนทั้งสิ้น 185 คน ทั้งหมดล้วนเป็นชาวโรฮีนจา และมากกว่าครึ่งเป็นเด็กและผู้หญิง


ทั้งนี้ ทางการจังหวัดอาเจะห์มอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในเบื้องต้น ให้แก่ชาวโรฮีนจา 414 คน ซึ่งโดยสารเรือ 3 ลำ ทยอยขึ้นฝั่งที่นี่ ตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว


อย่างไรก็ตาม อินโดนีเซียถือว่า ชาวโรฮีนจาไม่ใช่พลเมือง จึงไม่สามารถให้อยู่อาศัยระยะยาวในประเทศได้ แม้ในฐานะผู้ลี้ภัยก็ตาม เนื่องจากรัฐบาลจาการ์ตาไม่ได้เป็นภาคีของอนุสัญญาว่าด้วยสถานภาพผู้ลี้ภัย ฉบับปี 2494 หมายความว่า แม้ให้ความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม แต่กลุ่มคนเหล่านี้มีสถานะ “ผู้อพยพผิดกฎหมาย” ตามกฎหมายของอินโดนีเซีย


อนึ่ง สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอชซีอาร์ ) รายงานเมื่อช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปีที่แล้ว ความวิตกกังวลเกี่ยวกับ “ชะตากรรม” ของชาวโรฮีนจา “อย่างน้อย 180 คน” ว่า “อาจเสียชีวิตแล้วทั้งหมด” หลังแออัดกันมาในเรือโดยสารขนาดเล็ก ออกเดินทางจากบังกลาเทศ เมื่อเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา โดยเรือสูญหายและอับปางระหว่างลอยเคว้งอยู่กลางทะเล ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริง จะเป็นโศกนาฏกรรมเรือโดยสารของชาวโรฮีนจาอับปาง และมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดของปี 2565.

เครดิตภาพ : REUTERS