เรื่องจริงยิ่งกว่าละคร กว่าจะมีชีวิตรักที่สมบูรณ์แบบต้องแลกมาด้วยคราบน้ำตา “ดีเจดาด้า-วรินดา” ยืนหนึ่งเมียหลวงลวงสังหาร ปราบกิ๊กสามีเก่าอยู่หมัดด้วยปฏิบัติการณ์ลับ ซุ่มเงียบซ้อน GPS ไว้ในที่ลับ โดยมีเพื่อน “ดีเจอ๋อง-เขมรัชต์” รับหน้าที่นาตาชา โรมานอฟ ช่วยเป็นสายสืบอีกหนึ่งแรงงานนี้ดีเจดาด้เ เมาท์เอามันส์เป็นคู่มือเมียหลวง ผ่านรายการโต๊ะหนูแหม่มที่บอกเลยว่าแผนเด็ดสุดๆสามีโคเรียคนปัจจุบัน “เจสัน” ต้องร้อนๆหนาวๆ

ดีเจดาด้า เผยว่า “เรื่องจับกิ๊กด้วยจีพีเอสมันเป็นความลับเลยนะไม่ได้บอกใคร แต่ว่าเรื่องราวมันผ่านมานานแล้วเลยเล่าได้ มันเป็นความลับที่รู้แค่ด้า กับอ๋องสองคนเท่านั้น ไม่กล้าบอกใครเลย ปฏิบัติการนี้คือมันเป็นเรื่องที่ตื่นเต้นไม่ควรทำ แต่ว่าผู้หญิงอะเนอะเวลาเราสงสัยอะไรมันต้องรู้ มันต้องรู้เดี๋ยวนี้ว่าเกิดอะไรขึ้น พอดีตอนนั้นมันเริ่มรู้สึกแปลกๆ พฤติกรรมเปลี่ยนไป มันไม่เหมือนเดิม นิสัยผู้หญิงมันก็อยากรู้อยากเห็น เราก็เลยไปเสิร์จอ่านตามกระทู้ที่เขาแบบว่าตามจับสามีอ่ะ ตามจับกิ๊กเขาก็บอกว่าให้ติด GPS ก็ต้องหาวิธีว่าติดยังไงเพราะว่าสมัยก่อนมันไม่ได้ง่ายแบบนี้ เราก็ไปเสิร์ชในเน็ตอีกว่าซื้อ GPS ซื้อที่ไหน (หัวเราะ) มันก็ขึ้นมาเลยว่าต้องไปซื้อที่มาบุญครอง เขาก็ส่งไปรษณีย์มาให้ สมัยก่อนมันใช้ยากมากไม่เหมือนตอนนี้มันต้องถอดเข้าถอดออก ชาร์จแบตเตอร์รี่ เราก็ต้องหาเอาไปว่างมันมีทั้งแบบรุ่นฟังเสียงได้ และฟังเสียงไม่ได้ เราก็จัดแบบแพงสุด เอาแบบฟังเสียงได้ด้วย (หัวเราะ) เต็มคาราเบล”

“วิธีการของเราก็คือเริ่มต้นจากที่ทุกคนในบ้านหลับ แต่สมองเราไม่หลับ ประมาณตีหนึ่งตีสอง สมัยนั้นจิตมันว้าวุ่น ตอนนั้นจิตมันไม่สงบละมันอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พฤติกรรมเปลี่ยนไปเริ่มกลับบ้านดึกอะไรแบบนี้ เราแอบเอากุญแจรถเขามาแล้วก็คิดอยู่นานว่าจะว่างตรงไหนดีนะ เราก็มองไปเห็นกล่องกระดาษทิซชูในรถ เรารู้สึกว่าวางไว้เลยไม่ได้ เดี๋ยวเขาใช้กระดาษทิซชูมันจะโดนดึงขึ้นมา เราก็คิดแบบนี้ถ้าวางข้างบนข้างล่างเดี๋ยวมันดัง ก็เลยต้องวางตรงกลาง ใช้ความพยายามสูงมากในการเอาไปไว้ตรงกลาง ตำแหน่งพอดีเพราะเราไม่รู้เทคนิคที่จะไปวางไปสอดใต้ท้องรถเราไม่รู้ ผู้หญิงบ้านๆใส่ในกล่องกระดาษทิซชู เสร็จแล้วรอดแค่ 2-3 วัน รู้พิกัดแล้วว่าวันนี้ไม่นอกเส้นทาง อยู่ไหนไปไหนเราก็จะได้ยินเสียงตลอดเวลาเขาคุยกับเพื่อนอะไรแบบนี้ ช่วงนั้นเหมือนคนประสาท พอมันฟังเสียงได้มันจะต้องมีโทรศัพท์อีกเครื่อง อีกซิมโทรฯเข้าไปฟัง ซึ่งตอนนั้นแบบว่าเราถ่ายรายการ เราก็ต้องนั่งฟังเสียงใส่หูฟังตลอด ด้วยการฟังผัว (หัวเราะ) พอเขาขึ้นรถปุ๊บเราต้องรีบฟัง ใส่หูฟัง บ้างทีก็ได้เรื่องบ้างไม่ได้เรื่องบ้าง”

ดีเจดาด้า เล่าต่อว่า “นานไหมกว่าจะโอเคซักพักหนึ่ง ต้องเปลี่ยนถ่านตลอด3วันเปลี่ยนถ่านที่ มันต้องแบตเอาไปชาร์ตเอาไปชาร์จ บ้างทีก็ต้องเปลี่ยนตำแหน่งใส่ในตุ๊กตา เพราะเขามีตุ๊กตาอยู่ในรถ เราก็เอาตุ๊กตามากรีดและนั่งเย็บใหม่ ใส่ GPS เข้าไป (หัวเราะ) มันเป็นตุ๊กตาหมีที่เราเคยซื้อเป็นของขวัญให้ไป เสียงชัดได้อยู่ มันจะขึ้นตลอดว่าเขาอยู่ตรงไหนมันจะขึ้นในมือถือแจ้งเตือนมาที่เราตลอด ใช้เวลา2เดือนเลยกว่าจะจับได้ บ้างทีเขาออกนอกเส้นทางเราจะแกล้งถามอยู่ไหน เขาก็ตอบตรงว่าอยู่ร้านนี้กับเพื่อน ถ้าแบบว่าบอกไม่ต้อง เราก็จะบอกเพื่อนละ อ๋องอันนี้ไม่ตรงพิกัดนี้น่าสงสัย (หัวเราะ) และก็คือแบบว่าอ๋องไป ไปตามกัน อ๋องก็จะทำหน้าที่แบบว่านาตาชาได้ดีมาก ได้มาเจอฉันที่คอนโดและก็ขับรถไปกัน แบบว่าบ้ากันสองคน เราก็ไม่อยากขับรถเราไป อ๋องก็กลัวเขาจับรถได้ อ๋องก็เลยต้องใช้รถแม่ รถที่บ้านอ๋องเอามาใช้ และก็ขับรถกันไป มันคือเรื่องจริงไม่ใช่ละคร (หัวเราะ) สมัยจิตใจว้าวุ่น แต่ตอนนี้มันผ่านมาแล้ว เราก็เลยเล่าได้ ถามว่าเจสันรู้ไหม ยังไม่เคยบอกเขาว่าเราน่ากลัวขนาดนี้ (หัวเราะ) แล้วนี้เขาก็ฟังไทยไม่ค่อยออก ปล่อยผ่านๆไป”