เมื่อเวลา 00.20 น. วันที่ 16 ม.ค. ร.ต.อ.เอกวิทย์ ทองทุ่ม รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้รถมีผู้ติดภายใน บนถนนสายเลี่ยงเมืองลพบุรี ระหว่างหลัก กม.ที่ 6-7 หมู่ 1 ต.กกโก อ.เมือง จ.ลพบุรี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ต.อภิรักษ์ เวชกาญจนา ผบก.ภ.จว.ลพบุรี พ.ต.อ.รักศักดิ์ เมฆจินดา ผกก.สภ.เมืองลพบุรี อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู รถน้ำดับเพลิงจากเทศบาลตำบลกกโก และตำบลป่าตาล 2 คัน ที่เกิดเหตุพบ รถฮอนด้า ซีวิค สีเทา-ดำ ทะเบียน กล 5518 ลพบุรี จอดชิดไหล่ถนน มีไฟโหมลุกไหม้อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำจนเพลิงสงบ รถเสียหายทั้งคัน

ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีผู้เสียชีวิตอยู่ภายในรถ 1 ศพ สภาพถูกไฟไหม้เกรียมไม่สามารถระบุเพศได้ ขณะเดียวกันระหว่างเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ ได้มีสองผัวเมียมาให้ข้อมูลเบาะแสว่า มีอาชีพขับรถแบ๊กโฮ เดินทางมาจาก จ.สระบุรี ขณะขับรถผ่านจุดเกิดเหตุจะมุ่งหน้าไป อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ก่อนเกิดเหตุไฟไหม้รถคันดังกล่าว ได้ขับรถผ่านมาพอดี และตอนนั้นเห็นว่ามีรถเก๋งสีขาวไม่ทราบยี่ห้อ และทะเบียน ขับมาจอดประกบรถคันเกิดเหตุ จากนั้นไม่นานไฟก็ไหม้ทันที โดยรถเก๋งสีขาวได้ปิดไฟแล้วเร่งเครื่องขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ตนจึงวนรถกลับมาดูเห็นมีคนติดอยู่ในรถจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ดังกล่าว

จากคำให้การเจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบจุดเกิดเหตุโดยละเอียดอีกครั้ง พบว่า บนถนนห่างจากรถประมาณ 20 เมตร พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. 1 ปลอกตกอยู่ เชื่อว่าไม่ใช่แค่อุบัติเหตุไฟไหม้รถ แต่อาจเป็นการฆาตกรรมอำพราง จึงประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร รพ.อานันทมหิดล และเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ นำเครื่องตัดถ่างมานำร่างผู้เสียชีวิตออกจากซากรถ เบื้องต้นพบรอยถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่ขมับขวา 1 นัด ทะลุหลัง จึงให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ตรวจสอบหาสาเหตุเพลิงไหม้อย่างละเอียดอีกครั้ง และจากการตรวจสอบทะเบียนรถ ทราบชื่อผู้ครอบครองคือ นายสุวิทย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี ชาว จ.ลพบุรี จึงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน

จากนั้นเจ้าหน้าที่ติดต่อประสานแฟนสาวนายสุวิทย์ มาชี้ศพในที่เกิดเหตุยืนยันว่า ผู้เสียชีวิตคือ นายสุวิทย์ เจ้าของรถ พร้อมให้ข้อมูลว่า คบหากันมาได้ประมาณ 1 ปี โดยผู้ตายเป็นนายทุนเงินกู้ อีกทั้งจากตรวจสอบผู้ตายพบว่า เคยมีประวัติยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจสีเทาบางอย่าง เบื้องต้นสันนิษฐานว่าคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คน อาจรู้จักกับผู้ตายและมีเตรียมการมา โดยขับรถมาประกบรถผู้ตายบริเวณที่เปลี่ยวเพื่อจอดคุยตกลงอะไรกันบางอย่างแล้วตกลงกันไม่ได้จึงใช้อาวุธปืนจ่อยิงขมับขณะผู้ตายนั่งอยู่ในรถ ก่อนเผาอำพรางคดีดังกล่าว ตั้ง 2 ประเด็นฆ่าล้างหนี้ หรือขัดธุรกิจมืด อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะนำศพผู้เสียชีวิตไปชันสูตร พิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลเพื่อยืนยันอีกครั้งที่ รพ.ศูนย์ธรรมศาสตร์ รังสิต พร้อมตรวจสอบวงจรปิดตามเส้นทางรอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียด เพื่อเร่งติดตามคนร้ายมาสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป