เมื่อวันที่ 23 ส.ค. ที่รัฐสภา นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงการลงพื้นที่ติดตามและสังเกตการณ์เกี่ยวกับผลกระทบของประชาชนจากการชุมนุมทางการเมือง ที่เขตดินแดง เมื่อวานนี้ (22 ส.ค.) ว่า มีคณะกรรมาธิการ (กมธ.) 2 คณะ คือ คณะ กมธ.การกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน และคณะ กมธ.การพัฒนาการเมือง สภาผู้แทนราษฎร ว่าเราเห็นความเดือดร้อนของประชาชน และได้สะท้อนปัญหาวิธีการแก้ไขปัญหาของตำรวจ จึงมีการยกตู้คอนเทเนอร์ออก และเลื่อนไม่ให้อยู่ในที่ชุมชน รวมถึงการคัดกรองประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม อย่างไรก็ตาม วานนี้ยังไม่มีการชุมนุม แต่เป็นแก๊งป่วนเมืองที่ต้องการปะทะกับตำรวจอย่างเดียว และมีตัวแทนนักศึกษาจาก 7 มหาวิทยาลัย แนะนำว่าการชุมนุมเรียกร้องตามรัฐธรรมนูญ ต้องปราศจากอาวุธ และไม่ใช้ความรุนแรง และต้องมีการคัดกรองผู้ชุมนุม ไม่ให้พกพาอาวุธ และพวกชอบใช้ความรุนแรงให้คัดออก การชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ไม่มีความรุนแรง เป็นการชุมนุมเชิงสัญลักษณ์ แต่ตรงสามเหลี่ยมดินแดงไม่ใช่การชุมนุม เป็นการจ้างมาทำร้ายเจ้าหน้าที่ ซึ่งการพกพาอาวุธต้องถูกดำเนินคดีตามหลักสากล

นายสิระ ยังกล่าวถึงกรณีนายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือไฮโซลูกนัท ที่เข้าร่วมชุมนุมและได้รับบาดเจ็บบริเวณดวงตา ว่า ตนมีข้อสังสัยว่าตาบอดจริงหรือไม่ ตนมีคลิปว่าสิ่งแปลกปลอมที่ลอยลงมาไม่ได้โดนตา ทำให้ตนไม่เชื่อว่าตาบอด เพราะจนวันนี้ไม่มีแพทย์ออกมาบอกว่าตาบอด และหากตาบอดจริงต้องใช้เวลารักษาตัวคงไม่มาเดินได้แบบนี้ การเป็นลูกไฮโซได้รับการเลี้ยงดูที่ดีทำได้แค่นี้หรือ ตาไม่บอดก็บอกตาบอด ตนก็ขอให้บอดสองข้างไปเลยจริงๆ ให้พริกเข้าตาให้ตาบอดสองข้างไปเลย ตนขอให้เอาใบรับรองแพทย์มาแสดง ถ้าไฮโซลูกนัทตาบอดจริง ตนให้เลย 1 ล้านบาท อย่าเอาแค่เลือดเข้าตาแล้วบอกว่าตาบอดไปหวังผลทางการเมือง ยุยงปลุกปั่น ให้ประชาชนลุกขึ้นมาทำผิดกฎหมาย ถ้าตาไม่บอดขอให้สังคมออกมาร่วมประณามคนคนนี้.