กรณี เสี่ยหนุ่มนักธุรกิจอสังหาฯ เข้าเล่นฟิตเนสบนชั้น 15 ของห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านงามวงศ์วาน แล้วทรัพย์สินมีค่าที่เก็บเอาไว้ภายในล็อกเกอร์ สูญหายไปจากที่เก็บของในสถานที่ดังกล่าว โดยที่ไม่พบร่องรอยของการงัดแงะแต่อย่างใด ต่อมาทางผู้เสียหายเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองนนทบุรี ตามที่ได้เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

สุดช้ำเล่นฟิตเนสบนห้างดัง มือดีลักนาฬิกาหรู-แหวนเพชรสูญกว่า 10 ล้าน

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 18 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี ร.ต.อ.ยุงยุทธ สังข์สิริยะกุล พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุเพื่อตรวจสอบสถานเกิดเหตุ เก็บลายนิ้วมือแฝงสอบพยายานบุคคลและภาพจากกล้องวงจรปิดภายในสถานที่ดังกล่าว ก่อนจะนัดสอบพยานพนักงานทั้งหมดในฟิตเนส กระทั่งล่าสุดตำรวจทั้งสืบภาค 1 สืบจังหวัดนนทบุรี และสืบสวน สภ.นนทบุรี ร่วมกันจับกุมชาย อายุ 38 ปี ที่แฝงตัวเป็นลูกค้าเข้าไปออกกำลังกายในฟิตเนสแห่งนี้ ได้ภายในห้องพักแห่งหนึ่ง ย่านนนทบุรี พร้อมทรัพย์สินบางรายการ อาทิ นาฬิกาโรเล็กซ์ฝังเพชร พระเครื่องสมเด็จวัดระฆัง พระหลวงพ่อโต และครุฑ ส่วนเลสข้อมือและแหวนเพชร สร้อยทองคำ คนร้ายได้นำไปขาย และนำไปจำไว้ที่โรงรับจำนำแห่งหนึ่งย่านงามวงศ์วาน

สอบถาม นายสาธิต (ขอสงวนนามสกุล) นักธุรกิจหนุ่ม อายุ 35 ปี ชาวทวีวัฒนา กรุงเทพฯ กล่าวว่า ขอชื่นชมและรู้สึกดีใจที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว ทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ทำงานกันหนักมาก เพื่อติดตามคดีในเคสนี้ได้ เพราะคนร้ายที่ลักทรัพย์ เท่าที่รู้ข้อมูลมาว่า เป็นผู้ที่สมัครเมมเบอร์แฝงตัวมาออกกำลังกายในฟิตเนสแห่งนี้ และได้ปั๊มกุญแจตู้ล็อกเกอร์เอาไว้หลายดอก พอสบโอกาสก็จะเปิดตู้ขโมยทรัพย์สินต่างๆ ของผู้มาใช้บริการไป ซึ่งถือเป็นภัยต่อสังคม ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายด้วญ ที่ทำงานกันอยางหนัก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เสี่ยหนุ่มนักธุรกิจยังขอฝากถึงเจ้าของหรือผู้บริหารสถานที่ที่ให้บริการกับประชาชน ทุกแห่ง ควรติดตั้งกล้องวงจรปิดให้เพียงพอ และมีระบบรักษาความปลอดภัยให้รัดกุม โดยเฉพาะที่เก็บทรัพย์สินมีค่าของลูกค้าผู้เข้ามาใช้บริการในสถานที่ จะได้อุ่นใจปลอดภัยสำหรับลูกค้าด้วย โดยหลังจากนี้ จะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง