เมื่อวันที่ 23 ส.ค. ที่กระทรวงยุติธรรม นางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ มารดาของ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนำกลุ่มราษฎร พร้อมนายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เพื่อทวงถามความคืบหน้าการย้ายตัวลูกและเพื่อนกลุ่มผู้ชุมนุมที่ติดโควิดไปรักษา รพ.ภายนอกเรือนจำ โดยมีนายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้รับเรื่องแทน

นางสุรีย์รัตน์ กล่าวว่า ขณะนี้นายพริษฐ์เข้ารักษาอาการป่วยโควิด-19 อยู่ที่ฑัณทสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ตนมีโอกาสเยี่ยมลูกชาย 2 ครั้ง ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา พบว่าลูกชายมีอาการเหนื่อยหอบ ซึ่งต่างจากครั้งแรกที่ได้เข้าเยี่ยม โดยลูกชายบอกกับตนว่าหมอให้ยาผิด และวันต่อมาหมอลืมให้ยา อีกทั้งที่โรงพยาบาลมียุงเยอะกลัวเป็นไข้เลือดออก ซึ่งข้อเท็จจริงนี้ต่างจากที่กรมราชทัณฑ์ได้ออกมาชี้แจง นอกจากนี้ กลางคืนวันหนึ่งนายพริษฐ์มีอาการหอบหืดกำเริบก็ไม่มีใครเข้ามาดูแล ตนเข้าใจว่าแพทย์และพยาบาลมีงานล้นมือ

นางสุรีย์รัตน์ กล่าวต่อว่า ดังนั้นจึงขอใช้สิทธิในฐานะผู้ปกครองย้ายลูกชายออกมารักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ให้สามารถรองรับผู้ป่วยรายอื่นได้ โดยโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ยินยอมรับตัวแล้ว ตนมั่นใจว่า จะทำให้นายพริษฐ์อาการดีขึ้น หากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ยังไม่ให้คำตอบ หรือไม่ยินยอมให้ออกไปรักษาข้างนอกก็จะทวงถามและสู้ต่อไป

“ดิฉันยื่นหนังสือขอย้ายลูกชายออกไปรักษาที่ รพ.ภายนอก ตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา แต่หมอได้อธิบายเกี่ยวกับแนวทางการรักษาให้ฟัง โดยขอดูอาการ 1 สัปดาห์ และบอกว่าทุกอย่างจะดีขึ้น ดิฉันเชื่อหมอทุกอย่าง แต่ผ่านมา 1 สัปดาห์แล้ว ดิฉันเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยและแนวทางการรักษา เพราะเคยมีกรณีที่เกิดโรคแทรกซ้อนขึ้นในเรือนจำ อีกทั้งคำชี้แจงของกรมราชทัณฑ์ก็ไม่ตรงกับที่ลูกชายเล่าให้ฟัง” นางสุรีรัตน์ กล่าว

ด้าน นายกฤษฎางค์ กล่าวว่า นายพริษฐ์และนายสิริชัย นาถึง หรือ นิว ซึ่งเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ติดโควิดมีอาการทรุดลง โดยเฉพาะนายพริษฐ์เป็นหอบหืดเกี่ยวกับโรคปอดต้องรีบย้ายออกมารักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ซึ่งก่อนหน้านี้นายพริษฐ์เคยถูกควบคุมที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และถูกย้ายไปรักษาอาการอ่อนเพลียจากการอดอาหารที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ซึ่งการย้ายตัวไปรักษาในครั้งนั้นก็ไม่ได้มีการปรึกษากับญาติหรือทีมทนาย

นายกฤษฎาค์ กล่าวต่อว่า เมื่อศึกษาระเบียบและข้อบังคับของกรมราชทัณฑ์แล้วสามารถทำได้ ก็ขอให้อนุญาตย้ายตัวนายพริษฐ์และนายสิริชัยไปรักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ โดยโรงพยาบาลยินดีรับผู้ป่วยทั้ง 2 รายมาดูแลต่อ อีกทั้งครอบครัวและทนายเคยไปยื่นหนังสือให้กับกรมราชทัณฑ์ แต่ไม่มีความคืบหน้า ทำให้วันนี้มาขอความกรุณาจาก รมว.ยุติธรรม ในฐานะกำกับดูแลกรมราชทัณฑ์ช่วยเหลือ และอยากได้คำตอบในวันนี้ เพราะหากเวลาผ่านไปทั้งคู่อาจมีความเสี่ยงสูง

ขณะที่ นายวัลลภ ชี้แจงว่า ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์มีขั้นตอนการรักษาผู้ป่วยโควิดมาตรฐานอยู่แล้ว ซึ่งมีการชี้แจงรายละเอียดการรักษาผู้ป่วยแต่ละคนทุกวัน ตั้งแต่การรับตัวจนเข้าสู่การรักษาผู้ป่วยถึงปัจจุบัน มีการบันทึกเหตุการณ์ในการรักษา โดยขณะนี้โรงพยาบาลราชทัณฑ์สามารถรักษาผู้ป่วยได้ แต่ถ้าผู้ปกครองยื่นเรื่องก็เป็นสิทธิที่กระทำได้ ส่วนการย้ายตัวผู้ต้องขังป่วยโควิดไปรักษาภายนอกก็มีกฎระเบียบอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือ ไฮโซลูกนัท น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข และอาจารย์จากมหาวิทยาลัยรรมศาสตร์ มาร่วมให้กำลังใจนางสุรีย์รัตน์ และรับฟังความคืบหน้าจากกระทรวงยุติธรรมด้วย.