เมื่อวันที่ 23 ม.ค. พ.ต.ท.วิฑูรย์ สุขประดิษฐ์ สารวัตรสอบสวน สภ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎรธานี รับแจ้งพบผู้ถูกยิงเสียชีวิตในสวนยางพารา ซอยนวลน้อย หมู่ 2 ต.คลองสระ อ.กาญจนดิษฐ์ จึงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นสวนยางพารา ห่างจากถนนประมาณ 150 เมตร พบศพผู้เสียชีวิตเป็นชาย ทราบชื่อคือ นายพันทรัตน์ ดำสอน หรือเล็ก อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116 หมู่ 2 ต.คลองสระ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี สภาพศพสวมชุดกรีดยาง สวมรองเท้าบู๊ต มีตะเกียงส่องแสงสว่างคาดอยู่บนศีรษะ  มีแผลถูกยิงด้วยปืนลูกซอง กระสุนกระจายเข้าที่ลำคอ ใบหน้า และบริเวณขา ส่วนที่บริเวณใต้คางเป็นแผลฉกรรจ์คล้ายถูกของมีคม ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนลูกซอง 1 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

เบื้องต้นสอบถาม นางศิริเพ็ญ จันทร์หวาน หรือแอ๋ว อายุ 44 ปี ภรรยาเล่าว่า ตนและสามีมีอาชีพทำสวนยางพารา และหลังเที่ยงคืนที่ผ่าน ตนกับสามีก็ออกไปกรีดยางตามปกติ โดยตนกรีดยางแปลงที่อยู่ติดกับบ้าน  ส่วนสามีไปกรีดอีกแปลง ซึ่งห่างจากบ้านไปประมาณ 300 เมตร โดยทุกๆ วัน สามีจะกลับมาบ้านในเวลาประมาณ 05.00 น. แต่วันนี้ ตนเห็นผิดสังเกต ไม่เห็นสามีกลับมาบ้านตามปกติ แต่ไม่ได้เอะใจ จนกระทั่งเห็นว่าสายมากแล้ว จึงตามไปที่สวนยางพารา เมื่อไปถึงก็เห็นว่าสามีนอนฟุบอยู่บนพื้นดิน ก็คิดว่าสามีเป็นลม จึงได้รีบเข้าไปเพื่อให้การช่วยเหลือ แต่กลับพบว่าสามีมีบาดแผลที่ลำคอและเสียชีวิต ที่ผ่านมาสามีไม่เคยมีปัญหา หรือทะเลาะเบาะแว้งกับใคร ปัญหาอื่นๆ ก็ไม่มี จึงไม่ทราบว่าสาเหตุมาจากอะไร

ต่อมาเวลา 13.00 น. พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ บุญแก้ว ผกก.สภ.กาญจนดิษฐ์ พร้อมชุดสืบสวน เข้าควบคุมตัวนายสำราญ หรือใหญ่ ช่วยมี อายุ 50 ปี ขณะพักผ่อนอยู่ในขนำในไร่แตงกวาห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 400 เมตร หลังสืบทราบว่าเป็นผู้ใช้อาวุธปืนยิงนายนายพันทรัตน์ โดยในการซักถามปากคำนายสำราญ  ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ใช้อาวุธปืนยิงนายพันทรัตน์ จริง เนื่องจากโกรธแค้นที่ผู้ตายมักเข้ามาขโมยแตงกวา โดยก่อนหน้านี้ ผู้ก่อเหตุได้มาเช่าที่ดินใกล้กับสวนยางพาราของนายพันทรัตน์ เพื่อทำสวนแตงกวา และพบว่าผู้ตายเข้าไปขโมยเก็บแตงกวาในสวนของตนไปขายหลายครั้งแล้ว และแม้จะมีการพูดจาไม่ให้มาขโมยก็ไม่เป็นผล โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปดักซุ่มรอนายพันทรัตน์ ตั้งแต่ช่วงค่ำ จนสบโอกาสจึงใช้อาวุธปืนลูกซองยิงเข้าใส่ 2 นัด แต่นายพันทรัตน์ ยังไม่เสียชีวิต จึงได้ใช้มีดพร้าเข้าไปฟันซ้ำที่ใบหน้า หลังก่อเหตุก็กลับไปนอนที่ขนำและทำตัวตามปกติ โดยไม่คิดว่าตำรวจจะคลี่คลายคดีได้เร็วขนาดนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดปืนอาวุธปืนลูกซองยาวชนิด 8 นัด กระปืนลูกซองในรังเพลิงปืน 6 นัด ปลอกกระสุนในรังเพลิง 1 ปลอก มีดพร้า 1 เล่ม ซึ่งนายสำราญได้นำไปซ่อนไว้ในพงญ้าห่างจากขนำประมาณ 100 เมตร และควบคุมตัวมาสอบสวนเพื่อดำเนินคดีข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน