เมื่อวันที่ 27 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา ร.ต.ท.ภาคภูมิ สุรินทะ รอง สว.(สอบสวน) สภ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี นำตัว นายอธิป ภูฆัง อายุ 45 ปี ชาว อ.หนองหญ้าไซ ผู้ต้องหาพยายามฆ่า และพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังก่อเหตุปีนรั้วโรงเรียนเข้าไปใช้มีดพร้าฟันศีรษะนักเรียนชายชั้น ป. 3 วัย 9 ขวบ บาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 26 ม.ค. ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจากช่วงเช้าวันที่ 26 ม.ค. ตำรวจ สภ.หนองหญ้าไซ รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกฟันนักเรียนภายในโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี มีนักเรียนได้รับบาดเจ็บ จึงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบเพียงรอยเลือดส่วนผู้บาดเจ็บ เป็นนักเรียนชาย วัย 9 ขวบ นักเรียนชั้น ป.3 โรงเรียนดังกล่าว ถูกมีดฟันเข้าที่ศีรษะเป็นแผลยาวลึก กะโหลกร้าว เลือดคั่งในสมอง ครูรีบพาเด็กไปส่งโรงพยาบาลหนองหญ้าไซ ก่อนหน้าตำรวจไปถึง เบื้องต้นถูกส่งต่อ รพ.เจ้าพระยายมราช อ.เมืองสุพรรณบุรี เพื่อผ่าตัดสมองอย่างเร่งด่วน

ตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเด็กที่บาดเจ็บลงมาเข้าห้องน้ำ แล้วไปนั่งเล่นบริเวณเครื่องออกกำลังกายข้างรั้วโรงเรียน จากนั้นมีคนร้ายปีนข้ามกำแพงเข้ามาพร้อมถือมีดพร้าตรงเข้ามาฟันหัวเด็กบาดเจ็บสาหัสโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง แล้วหลบหนีไป เจ้าหน้าที่จึงระดมกำลังไล่ติดตามตัวจนสามารถจับกุมตัวไว้ได้ ที่บ้านพักใกล้โรงเรียนที่เกิดเหตุ พร้อมของกลางมีดพร้ายาว 1 ฟุต วางอยู่บนเขียงในครัวข้างบ้าน จึงยึดไว้เป็นของกลาง ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวน

สอบสวนเบื้องต้น นายอธิป ยอมรับว่า ก่อนเกิดเหตุได้ดมกาวจนมึนเมาแล้วหยิบมีดพร้าในบ้านเดินออกมาจากบ้าน กระทั่งเดินมาถึงโรงเรียนที่เกิดเหตุด้วยอาการเมากาว เห็นเด็กนั่งอยู่คนเดียวจึงปีนรั้วเข้าไปฟันศีรษะเด็กบาดเจ็บดังกล่าว และจากการตรวจสอบประวัติพบว่า เคยถูกจับกุมในข้อหาเสพยาเสพติด จึงนำตัวไปตรวจปัสสาวะแต่ไม่พบสารเสพติด จึงแจ้งข้อหาพยายามฆ่า และพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวเข้าห้องขัง และส่งฝากขังดังกล่าว

สอบถามตาของเด็ก กล่าวว่า หลังเกิดเหตุหมอตรวจดูอาการพบว่า เหมือนมีกระดูกกะโหลกฝังเข้าไปในสมอง จึงต้องเร่งทำการผ่าตัดสมองให้เร็วที่สุดเพื่อเปิดสมองดู ถ้าสมองไม่บวมก็ปิดกลับ ส่วนคนก่อเหตุตนรู้จักเพราะเป็นคนบ้านเดียวกันแต่ไม่ค่อยได้มาอยู่บ้าน พอกลับมาก็จะไม่ออกไปข้างนอก เคยอาละวาดแบบนี้หลายครั้งแล้ว ตอนนี้รู้สึกเสียใจพูดอะไรไม่ออก ไม่น่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ ตอนเกิดเหตุตนอยู่ที่นาภารโรงที่รู้จักโทรฯไปบอก ซึ่งตนไม่อยากให้คนร้ายออกมาอยู่ในสังคมแบบนี้อีก เพราะเดี๋ยวก็คงกลับมาก่อเหตุอีก อยากให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุดเพราะชาวบ้านกลัวและหวาดระแวงไปหมดแล้ว.