เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 07 ก.พ.นี้ ที่สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 อาคารมาลีนนท์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี เอ๊ะ-จิรากร สมพิทักษ์ ศิลปินหนุ่มชื่อดัง วัย 45 ปี ถูกชายหนุ่มบุกขึ้นไปทำร้ายร่างกายด้วยการชกหน้า ขณะร้องเพลงอยู่บนเวที ที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ย่านคลองสาม จ.ปทุมธานี เมื่อค่ำคืนวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา ล่าสุดหลังจาก เอ๊ะ พร้อมด้วย กัน จอมพลัง ได้เปิดใจในรายการโหนกระแสเสร็จสิ้น ก็ได้ลงมาให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นดังกล่าวกับสื่อมวลชนอีกครั้ง

เอ๊ะ-จิรากร เปิดเผยว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนนั้นเวลาราวเที่ยงคืนครึ่ง ผมเล่นที่ร้าน Walkin 88 ย่านคลองสาม จังหวัดปทุมธานี คู่กรณีเดินมารอบนึง นำเครื่องมาให้ผมดื่ม ผมก็ดื่มไปเรียบร้อย สัก 15 นาทีให้หลังเขาเดินมาอีกรอบ โดยที่มือขวาเขาถือแก้ว มือซ้ายถือโทรศัพท์ ผมก็คิดว่าเขาน่าจะเอาให้ผมดู มาขอเพลงหรือมาเซลฟี่ ผมก็ไม่แน่ใจ แต่ตอนที่เขาขึ้นมา เขาก้าวขึ้นสเต็ปของสเตจ ซึ่งตามกฎการ์ดต้องไม่ให้ขึ้นเวที การ์ดจึงดึงลงมา เขาก็ผลักการ์ด จากนั้นเขาก็ใส่ผมเลย ผมไม่รู้ว่าโดนบริเวณไหน แต่เซไป 3 ก้าว หูวิ้ง มีร่องรอยคือหูแดง ได้รับการกระแทก เขายังไม่ได้พูดอะไรกับผม เขากำลังก้าวขึ้นไปบนสเตจเสร็จก็โดนพี่การ์ดเอาตัวลงพอดีเลยหันไปใส่ ซึ่งตอนนั้นผมยังจะอ้อมแขนไปโอบไหล่เขาอยู่เลย ถามว่า ‘พี่มีอะไร ขอเพลงอะไร หรือจะเซลฟี่’ ก็ว่ากันไป แต่ยังไม่ทันได้พูด ก็หูอื้อก่อน พอหลังจากนั้นทางการ์ดก็นำพี่ ๆ ทั้งหลายออกไปนอกร้าน ซึ่งไม่รู้ว่าเขาไปเอาอะไรในรถสักอย่าง จนการ์ดถอยกลับมาในร้าน แล้วพี่เขาก็ขับรถกลับออกไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งผมก็ได้ข้อมูลจากทางเพื่อน ๆ ที่อยู่ในนั้น บอกว่าให้ดูกันดี ๆ เพราะไม่รู้ว่าเขามีอะไร ผมเลยต้องเข้าไปที่ห้องพักของศิลปินก่อน และไปเปลี่ยนรถ ซึ่งผมกลับบ้านไม่ได้ เพื่อความปลอดภัย เลยไปอยู่ที่บ้านน้องก่อน เป็นเซฟเฮาส์ ส่วนตัวรู้สึกไม่ปลอดภัย กลัวเขาดักทำร้าย ผมก็ไม่แน่ใจว่าเขามีพรรคพวกเยอะแค่ไหน

หลังจากตอนนั้น ราวตี 2 ผมได้คุยกับพนักงานที่ร้าน คนจัดคอนเสิร์ต เขาก็ส่งข้อมูลให้ผม และผมก็บอกกับทางที่ร้านว่า ขอคุยกับผู้ใหญ่ก่อนว่าผมจะจัดการยังไง ขอดูข้อมูลทางเขาก่อน ว่าเขาเป็นใคร ยังไง และเช้ามาผมก็เอาข้อมูลนี้ให้ เบ๊น อาปาเช่ และพี่กัน จอมพลัง เพราะอยู่กลุ่มเดียวกัน และบอกว่าอันนี้ต้องใส่กันเต็ม ๆ แล้ว ผมไม่รู้จักกับฝั่งคู่กรณีเป็นการส่วนตัวมาก่อน คนละสายด้วย ไม่ใช่แฟนเพลงด้วย ซึ่งนี่ถือเป็นเหตุการณ์ครั้งแรกที่ถูกขึ้นมาประชิดตัวและทำร้ายร่างกาย เพราะก่อนหน้านี้ผมว่าผมเฟรนด์ลี่ ซึ่งตอนนั้นที่ผมควบคุมอารมณ์ได้ดี เพราะนึกถึงหน้าลูกเมียพ่อแม่ พอรู้ว่าโดนก็ถอยฉากออกมาก่อน เรากระเด็นออกมาผมก็มองก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น พอเขาหันไปใส่การ์ด แล้วอีกคนเข้ามาหาผม ทีมงานก็เข้ามาขวางพอดี ตอนนั้นผมก็งง วิ้งอยู่

ทั้งนี้ ผมไปตรวจร่างกายมาเมื่อเช้านี้ ที่โรงพยาบาลวิภาวดี ใบรับรองแพทย์ระบุว่า มีเสียงในหู หลังโดนตบที่หู ตอนนี้ระดับการได้ยินของผมลดลงกว่าเดิม ถามว่าจะกระทบกับการทำงานของเรามั้ย คือตอนนี้หูซ้ายก็ยังอื้อ วิ้ง ๆ อยู่ ซึ่งหลังจากเหตุการณ์นี้ ก็ไม่ได้แคนเซิลงาน หลังจากวันนั้นก็ไปงานที่ จ.เชียงราย ต่อเลย แต่ก็ไปด้วยความหวาดระแวง เพราะไม่ไว้ใจในความปลอดภัยของตัวเอง ผมไม่รู้ว่าสาเหตุที่คู่กรณีทำแบบนั้นคืออะไร อย่างที่สงสัยกันคือความแค้นส่วนตัวกับผมหรือหรือเปล่า ซึ่งผมก็ไม่ได้มีเรื่องกับใคร มีแค้นกับร้านหรือเปล่า อยากดังหรือเปล่า ซึ่งทางร้านได้ขอโทษผมแล้วในรายการ ผมว่าคนที่เสียหาย ก็คือผมและมีทางร้านด้วย เราทั้งคู่เสียหายกันอยู่แล้ว เดี๋ยวก็จะไปแจ้งความ โดยมีพี่กันดูแล

ส่วนที่ตอนนี้คู่กรณีได้เข้าไปหาเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วนั้น เอ๊ะ กล่าวตอบว่า ไวนะครับ ที่เขาบอกว่าสาเหตุที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว เนื่องจากเขาตามหาแฟน ส่วนตัวผมมองว่ามันไม่เกี่ยวกับผม ผมยังงงว่าเขาเอาไมค์ที่ผม เพื่อประกาศตามหาแฟน ผมก็งงว่าผมเกี่ยวอะไรกับแฟนเขา ผมมาถึงที่ร้านไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเลย ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลยสักอย่างเดียว ที่เขาบอกว่าขึ้นไปเพื่อจะตามหาแฟน ณ ตอนนั้นที่ผมอยู่บนเวที เขายังไม่ทันพูดอะไรเลย เขาไม่ได้คว้าที่ไมค์หรือมือของผม แต่เขาคว้าที่หูของผม

ถามว่าคู่กรณีไม่น่าจะให้การตรงกับข้อเท็จที่เกิดขึ้นหรือเปล่านั้น ศิลปินหนุ่ม ตอบว่า ใช่ครับ และเมื่อสักครู่เขายังให้การอยู่ว่า หลังจากที่เขาคว้าไมค์เสร็จเรียบร้อย ข้างล่างไม่ได้มีการตะลุมบอลอะไรกัน ซึ่งหลังจากนี้ผมจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดครับ ด้วยเราโดนทำร้ายร่างกายด้วย และยังมีกรณีโยนเงินใส่ โจอี้ ภูวศิษฐ์บ้าง ขึ้นไปแย่งไมค์บ้าง ผมว่ามาตรฐานการทำงาน มาตรฐานพื้นฐานการให้เกียรติในความเป็นมนุษย์ และการทำงานของพวกเรา มันควรจะดีขึ้น ค่ายเราร้องขอไป ทางร้านก็ควรซัพพอร์ต อย่าให้มันเกิดกรณีแบบนี้ขึ้นมาอีก เรื่องความปลอดภัยเราก็ร้องขอทางร้านไปอยู่แล้ว ก็อยากให้เขาซัพพอร์ตเราหน่อย มีหลายเคสที่ขอเวทีสูงหน่อย ขอการ์ดหน้าเวที เพื่อความปลอดภัย ถ้าคอนเสิร์ตทุกคนสนุก ผมสนุก เจ้าของร้านก็สนุก ทุกคนวินวิน ณ ตอนนี้ก็รู้สึกว่ายังไม่ปลอดภัย เลยมาหาพี่กัน ซึ่งเหตุการณ์นี้ ถ้าเขาขอโทษก็ไม่จบครับ ผมไม่ได้ใจร้ายนะ ไม่อย่างนั้นมันก็จะเป็นแบบนี้อีกเรื่อย ๆ กระเช้ามาขอโทษ ก็รับทราบ แตไม่ขอเจรจา ดำเนินคดีอย่างเดียวกับทุกคน เพื่อเป็นบรรทัดฐานและทุกคนก็มีส่วนร่วม สมรู้ร่วมคิดกันอยู่แล้ว จากที่ผมดูในคลิป ให้เป็นกรณีตัวอย่าง เพราะก่อนหน้านี้โยนเงินใส่ ขึ้นไปแย่งไมค์ ก็ทำอะไรไม่ได้ จนทำร้ายร่างกายนี่แหละ ถึงจะทำอะไรได้ แต่มันต้องให้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ ถ้าไม่ใช่ล่ะ ถ้าเป็นนักร้องผู้หญิงล่ะ

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า หลังจากที่จับตัวผู้ก่อเหตุไปแล้ว กลุ่มคนที่มากับผู้ก่อเหตุ มีพฤติการทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุยังไงบ้างนั้น เอ๊ะ กล่าวตอบว่า ไม่ทราบเลยครับ เมื่อสักครู่ที่ถามเจ้าของร้าน คือเขาไปอยู่ในมุมอับ หน้าบาร์ ผมไม่เคยเห็นเขามาก่อนเลย และเขาเหมือนเดินมาจากข้างหลังร้านเลย ซึ่งมาตรการจากทางค่าย คือตอนนี้ก็ขอให้ไม่ใกล้ชิดตัวเราแล้วอีกสักพักเลย ขอให้คดีจบก่อน ส่วนความใกล้ชิด เรื่องเยอะก็หยิ่งไป เฟรนด์ลี่ไปก็เป็นแบบนี้ มันต้องหาข้อตกลง หาจุดกึ่งกลางว่าเราควรจะบริหารจัดการยังไง กับการเล่นคอนเสิร์ต อาจต้องคุยกันอีก หรือไม่ก็อยากให้สมาคมนักร้อง นักดนตรี พี่ ๆ ศิลปินที่มีชื่อเสียงออกมาเรียกร้องสิทธิประโยชน์กันบ้าง ส่วนโชว์หลังจากนี้ การ์ดจะเหนียวแน่นขึ้น ค่อยถ่ายรูปกันวันหลัง ไม่ว่าจะไปคอนเสิร์ตที่ไหน อย่างวันนี้จะไปเล่นคอนเสิร์ตที่สมุย ก็ขอการ์ดไว้เลย ว่าก่อนเล่นขออยู่ในรถตู้ พอลงไปร้องเสร็จก็ขึ้นรถตู้กลับเลย ขอเซฟตัวเองก่อน ส่วนถึงขั้นต้องเรียนมวยหรือไม่นั้น เดี๋ยวถามพี่บัวขาวก่อน ตอนนี้ผมยังรับงานร้องเพลงได้ เพียงแค่การได้ยินลดลงไปพอสมควร ซึ่งการรักษาคุณหมอให้ทานยา ประมาณอาทิตย์นึง ค่อยติดตามผลอีกอีก

กัน จอมพลัง กล่าวเสริมว่า ผมและเอ๊ะก็สงสัยว่ามันจะเป็นแฟชั่นหรือเปล่า หากเอ๊ะไม่ดำเนินการแบบนี้ จะไปดักต่อยเอ๊ะตามร้านต่าง ๆ ที่ไปหรือเปล่า อันนี้คือสิ่งที่น่ากังวล เพราะทำแล้วได้แสง ได้ซีน ได้ดังหรือเปล่า ส่วนเรื่องคดี มันเป็นคดีอาญาอยู่แล้ว เนื่องจากทำร้ายร่างกาย ทางเราจะรวบรวมหลักฐานทั้งหมดและส่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันนี้ เข้าส่วนไหนดำเนินการส่วนนั้น เอาให้เต็มที่ ถ้าวันนี้ขอโทษเอ๊ะแล้วจบ รอบหน้ามีคนไปดักต่อยเอ๊ะแล้วมาขอโทษ วนไปวนมาแบบนี้ วันนี้เขาขอโทษเพราะเป็น เอ๊ะ-จิรากร เป็นนักร้องดัง ถ้าเป็นมือเบส จะมีแบบนี้หรือเปล่า ต้องตั้งคำถาม ส่วนทางร้านก็ไปร่วมแจ้งความดำเนินคดีด้วย เอาเต็มที่

ในส่วนความกังวล คือพฤติกรรมที่เขาทำมันอุกอาด ผมเชื่อว่ามีคนอินบ็อกซ์มาบอกผมว่า เขามั่นใจมีแบ๊กดี มีผู้ใหญ่ ผมก็อยากบอกตรงนี้เลยว่า ใครเป็นเจ้าของปลอกคออยู่ ถ้าอยากออกมาช่วยเรื่องนี้ ออกมาเลย ถ้าคิดว่าวิธีที่เขาอยู่ถูกต้อง สมควร ออกมาเลย แต่ถ้าไม่ออกมา ก็คิดดูดี ๆ ว่าท่านจะยังเลี้ยงหรือดูแลคนแบบนี้ต่อไปหรือไม่ ซึ่งทางเราจะเอาผิดก็ตามคลิป มีกี่คน เข้าไปข้อกฎหมายไหนได้ ก็เอาหมดครับ ทราบชื่อหมดทุกคนแล้ว ส่วนเรื่องการเรียกค่าเสียหาย ต้องดูอีกทีว่าตอนนี้กระทบในส่วนไหนของเอ๊ะบ้าง เราเอาทุกเม็ดเพื่อให้เป็นบรรทัดฐาน เขาต้องรับผิดชอบในผลที่ตามมา ในส่วนของร้าน ค่าเสียหายก็หลายตังค์ เพราะคอนเสิร์ตเอ๊ะร้องไป 5 เพลงแล้วล่มเลย เขาต้องรับผิดชอบทั้งของร้านและของเอ๊ะด้วย ถ้าคู่กรณีอยากเจอเอ๊ะ ก็เจอได้ จะทำอะไรก็รับทราบ จะมาดีหรือไม่ดี ก็แล้วแต่ เราก็ยินดีเจอได้เสมอ ไม่มีปัญหา ให้ดูไว้เป็นตัวอย่าง “เอ๊ะมาขายเสียงความสนุกสนาน มาสร้างความสุขให้คนในร้าน ไม่ได้มาขายเรือนร่างให้ทำร้ายหรือทำอะไรเขาก็ได้ ฝากถึงน้องๆ กลุ่มนี้ว่าอย่าห้าว ส่วนใหญ่คนห้าว กินข้าวผ่านธูป” กัน จอมพลัง ทิ้งท้าย.