เรียกได้ว่ากำลังเป็นประเด็นร้อนที่หลายคนกำลังให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้ หลังจากนักร้องสาว “มิรา ชลวิรัลวานิศร์” ได้ออกมาโพสต์ข้อความอัพเดทเกี่ยวกับคดีความการฟ้องร้องอดีตสามี ครูไพบูลย์ แสงเดือน และภรรยาคนปัจจุบัน กระต่าย พรรณนิภา ด้วยภาพสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสคู่กับทนาย พร้อมบอกว่า ศาลตัดสินจำคุกกระทงละ 2 ปี 4 กระทง รวมจำคุก 8 ปี ชดใช้ค่าเสียหาย 350,000 บาท ไม่รอลงอาญา ในความผิดฐานพรากผู้เยาว์ และกระทำชำเราเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด ครูไพบูลย์ ได้ไลฟ์สดเปิดใจเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่า ขอบคุณทุกกำลังใจครับ ใครไม่ให้กำลังใจก็แล้วแต่ ส่วนที่มีคนบอกว่าคดีนี้ไม่ได้รออาญา ก็อยากให้เสพข่าวอย่างมีสติและดูว่าประเด็นอะไร ใครเป็นคนฟ้อง ฟ้องแบบไหน และคดีเป็นรูปแบบไหน กฎหมายไทยเป็นระบบกล่าวหา ใครกล่าวหาคนนั้นเป็นโจทก์ ก็สู้และว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับกระต่าย หลายคนมาคอมเมนต์ว่าพ่อแม่ผู้ปกครอง หรือใครที่มาฟ้องแทนกระต่าย มันไม่ได้เป็นคดี กระต่ายไม่ได้ฟ้องและไม่เกี่ยวกับกระต่าย มันเป็นเรื่องของอดีต คนเก่าของผมที่มาฟ้องผม ไม่ได้เกี่ยวกับกระต่ายเลย

ทุกคนอาจเห็นข่าวมาเรื่อย ๆ ที่เขาฟ้อง มันเกิดจากอะไร และทำไมต้องฟ้อง วันนี้ผมจึงมาอัพเดท เพราะบางคนอาจอ่านข่าวแล้วไม่เข้าใจว่าทำไมผมไม่พูด ผมก็อยากพูด พยายามพูดมาตลอด แต่ผมเป็นผู้ชายก็อาจพูดเรื่องส่วนตัวไม่ได้ มันเหมือนสาวไส้ให้กากิน ไม่ได้ ก็พูดในส่วนที่จำเป็นต้องพูด ที่เหลือก็ให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย ไม่มีอะไร ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ อย่างเดียวในตอนนี้ ทุกอย่างต้องใช้เวลาไป เพราะว่าศาลมีหน้าที่ในการตัดสิน ก็ต้องให้ท่านตัดสิน ไม่ว่าจะตัดสินแบบไหน มันก็ต้องอุทธรณ์กันอยู่แล้ว เป็นเรื่องธรรมดา เว้นเสียแต่ว่าจะตัดสินยกฟ้อง หรือตัดสินแบบไหน ผมก็ต้องใช้สิทธิของผม เขาก็ต้องใช้สิทธิของเขาอยู่แล้วในกระบวนการกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกา ก็ว่าไป

อันนี้เป็นเพียงแค่ขั้นแรก นี่ก็เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ต้องขึ้นศาล ก็ได้ประสบการณ์และได้เรียนรู้ ได้เห็นพฤติกรรมคนในศาล เราได้รู้หมด แต่เรายังพูดอะไรไม่ได้ ต้องรอให้เสร็จก่อน ใจเย็น ๆ ก่อน ยังพูดอะไรไม่ได้ จนกว่าทุกอย่างจะถึงที่สุด ขอบคุณทุกคน ไม่มีอะไร ทุกอย่างมันก็เป็นไปตามกระบวนการของมันเรื่อย ๆ แต่ต้องใช้เวลาแน่ ๆ หลายคนก็เป็นห่วง โทรฯ มาถาม เลยถือโอกาสไลฟ์สด ขอบคุณทุกกำลังใจ เพื่อนอยู่บ้านด้วยกัน ก็เห็นชีวิตกันมา แต่ศาลอาจไม่เห็น ก็ไม่เป็นไร เราก็พิสูจน์ให้ศาลเห็นเอา จากนี้ผมก็กลับบ้านเปลี่ยนเสื้อผ้าและไปเตะฟุตบอลกับเพื่อน ๆ ส่วนตัวก็สบายใจขึ้นมาระดับหนึ่งว่า ต่อไปเรามีแนวทางแบบไหน

นอกจากนี้ ครูไพบูลย์ ยังตอบโต้คอมเมนต์ที่เข้ามาคอมเมนต์ต่อว่ารุนแรงในไลฟ์ด้วยว่า บางทีการคอมเมนต์ควรให้เกียรติตัวเอง คุณคอมเมนต์ยังไง เกียรติคุณก็มีแค่นั้น สิ่งไหนควรหรือไม่ควร ถูกหรือไม่ถูก ก็อยู่ที่คุณ คำที่เราพูดออกไป คนแรกที่ได้ยินคุณก็คือตัวเราเอง เพราะฉะนั้นคุณก็จะได้รับสิ่งที่พูดออกมา การไม่รู้จักให้เกียรติคนอื่น ก็ส่อให้เห็นถึงสันดาน บางคนก็แปลก เหมือนมีการศึกษา มีวุฒิภาวะ แต่คอมเมนต์มาน่ากลัว อ่านไม่ได้เลย แต่ตนก็ไม่ได้ว่า ถ้าเชื่อตามข่าว อาจเชื่อได้ เป็นสิทธิของคุณ แต่ถ้าคอมเมนต์ไม่ลืมหูลืมตา ก็ไม่น่ารัก รวมทั้งครูไพบูลย์ยังบอกอีกว่ารู้สึกตกใจ เพราะออกมาจากศาล แล้วไปเข้าห้องน้ำ ยังไม่ได้พูดอะไรเลย ออกมาอีกทีเจอว่า ตัวเองเป็นข่าวไปทั่วทุกช่องแล้ว..