เมื่อวันที่ 8 ก.พ. นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ในประเด็น “พนันออนไลน์ กับ ระบบคอร์รัปชั่น” โดยระบุว่า

การขยายตัวของการพนันออนไลน์ในระยะ 3-4 ปีมานี้ เพิ่มขึ้นหนักมาก
.
ตำรวจมีหน่วยงานที่ปราบปราม แต่กลับถูกใช้เป็นช่องทางหาเงิน
.

  • กองบัญชาการไซเบอร์
  • ศูนย์ปราบปรามไซเบอร์ (PCT)
  • กองบังคับการไซเบอร์ 5
    .
    และยังต้องจ่ายเศษให้ นายพล “จ” ที่เคยอยู่ไซเบอร์
    .
    เมื่อมีการจ่าย ย่อมปิดไม่อยู่ คนจ่ายต้องพูดว่า “เคลียร์แล้ว” ไม่งั้นจะทำได้ไง?
    .
    มันก็เหมือนบ่อน จะเปิดได้ต้องเคลียร์ ไม่งั้นเปิดไม่ได้
    .
    แต่พนันออนไลน์หนัก เพราะรายได้มาก เดือนๆ หนึ่งรวมกันเคลียร์หลายร้อยล้าน
    .
    แม้แต่วันนี้ยังมีตำรวจระดับสารวัตร เป็นนายบ่อนออนไลน์เสียเอง
    .
    ทั้งวงการรู้หมด ปิดไม่อยู่ ต้องเลือกเอาว่าจะเป็นตำรวจ หรือจะเป็นนายบ่อน จะเป็นทั้งสองอย่างไม่ได้
    .
    หรือนายตำรวจเด็กๆ ขับรถซูเปอร์คาร์คันละ 30-40 ล้าน ห้อยนาฬิกาเรือนละ 20 ล้าน อยู่คอนโดฯ เพนท์เฮาส์ลอยฟ้า
    .
    ถามจริงๆ เจ้านายเคยทราบไหมว่าทำพนันออนไลน์ หรือตระกูลร่ำรวยมาก?
    .
    หากให้สรรพากรไปตรวจสาวไส้จะรู้ว่าเงินมาจากไหน เสียภาษีหรือไม่?
    .
    แต่ไม่มีใครสนใจ กลับชมเชย เอาไว้ดูแลผู้ใหญ่ ทุกคนล้วนมีส่วนร่วมกันหมดกับการคอรัปชั่นกัดกินประเทศจนเน่า
    .
    แม้แต่นายกฯ อยู่มา 8 ปี ด้วยการยึดอำนาจ เหตุจากคอร์รัปชั่น มีอำนาจล้นฟ้าเท่าจอมพล ป. แต่ท่านหาได้ทำให้คอร์รัปชั่นหมดไปหรือน้อยลง
    .
    ท่านกลับกลายเป็นส่วนหนึ่งของการเกื้อหนุนให้ระบบนี้อยู่ต่อไปโดยการไม่ทำอะไรเลย
    .
    เรื่องเล็กสุด การตั้งด่านยังมีเป้าให้เก็บส่งนาย หากจะตั้งด่านได้ผู้บังคับบัญชาต้องอนุมัติ ไม่ใช่นายสิบ นายร้อย นึกอยากจะตั้งก็ตั้งเองได้ที่ไหน?
    .
    แล้วจะไม่รีดไถได้ไงครับ? โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวเป็นเป้าหมายหลัก เพราะอยู่แค่ชั่วครั้งชั่วคราว ไม่ได้อยู่ประจำ และไม่ยอมเป็นพยานให้เสียเวลา สักพักก็กลับประเทศเขาแล้ว
    .
    เอาเรื่องราวเลวร้ายของตำรวจไปเล่าให้คนเขาฟัง ถึงขนาดบางประเทศทำหนังสือคู่มือเดินทางเตือน เมื่อเดินทางมาอยู่ เที่ยว อาศัยในประเทศไทย
    .
    หรือการกินสำนวน ช่วยเหลือทางคดีกับผู้ต้องหาฟอกเงิน ค้ามนุษย์ จ่ายเงินให้ละเว้นทรัพย์สินที่ต้องยึด แล้วนำเอาออกมาค้ามนุษย์อีก
    .
    ส่วนคดีก็วิ่งชั้นอัยการ ถอนหมายจับ สั่งไม่ฟ้อง ดีเอสไอไม่แย้ง
    .
    ตอนจับโชว์จัดเต็ม แต่พอเรื่องนานไปปล่อยหลุด
    .
    หวั่นใจ “ตู้ห่าว” จบไม่สวย แบบเดียวกันกับเรื่องอื่นๆ
    .
    ไปจนถึงระบบด้านบนขององคาพยพทั้งหมด นักการเมือง อธิบดี ผู้อำนวยการโรงเรียน เพียงแต่จะถูกจับได้หรือไม่
    .
    กินทั้งการโยกย้ายตำแหน่ง งบประมาณ ไปจนถึงอาหารให้เด็กนักเรียน
    .
    ทุกคนทุจริตคอร์รัปชั่น แต่ไม่มีใครยอมรับ ขนาดมีเงินวางบนโต๊ะ
    .
    พูดได้เต็มปากว่า ใครถนัดอะไรก็คอร์รัปชั่นเรื่องนั้น และกว่าจะจบกระบวนการต่อสู้คดีก็ยืดเยื้อ บอกว่าต้องให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
    .
    อีกฝ่ายมีเงินก็ซื้อพยาน ซื้อกฎหมาย หาช่อง ปิดปาก ทำเนียน เรื่องเงียบ
    .
    ทุกคนแฮปปี้ได้เงินครบจบในตัว ส่วนประเทศเป็นยังไง ช่างหัวมัน
    .
    ทุกประเทศล้วนมีประวัติการทุจริต แต่เมื่อบ้านเมืองเจริญขึ้น ทุกอย่างพัฒนา คอร์รัปชั่นก็เริ่มลดน้อยถอยลง จนกลายเป็นสิ่งน่ารังเกียจของสังคม
    .
    แต่ในประเทศไทย ยิ่งนานวันระบบคอร์รัปชั่นกลับยิ่งหอมหวน เติบโต และเป็นความชื่นชอบของผู้ถือกฎหมาย ที่จะหาประโยชน์อย่างไร้ยางอายที่สุด
    .
    เหมือนอย่างที่คนบอกเอาไว้ว่า
    .
    “ผู้มีกฎหมายในมือ แต่ให้ความเป็นธรรมแก่ประชาชนไม่ได้ ถือว่าเป็นคนไร้ซึ่งคุณธรรม”
    .
    เราไม่มีคุณธรรม แถมยังอ้างความชอบธรรมเพื่อทุจริตเสียด้วยซ้ำ
    .
    มันเลวระยำที่สุดในยุคนี้