สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 9 ก.พ. ว่า บริษัท วอลต์ ดิสนีย์ เผยแพร่แถลงการณ์ของนายบ็อบ ไอเกอร์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) เกี่ยวกับมาตรการ “ปรับโครงสร้างองค์กร” ด้วยการทยอยเลิกจ้างพนักงาน 7,000 ตำแหน่งทั่วโลก ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถประหยัดงบประมาณได้ราว 5,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 184,283 ล้านบาท)


ปัจจุบัน ดิสนีย์มีพนักงานทั่วโลกประมาณ 190,000 คน จากจำนวนดังกล่าว 80% เป็นพนักงานประจำ ขณะที่การประกาศมาตรการเลิกจ้างพนักงานเกิดขึ้น หลังการเปิดเผยสถิติผู้ใช้งาน “ดิสนีย์ พลัส” บริการสตรีมมิ่งซึ่งตอนนี้ถือเป็นคู่แข่งของเน็ตฟลิกซ์ มีจำนวนบัญชีผู้ใช้งานลดลง 1% อยู่ที่ 161.8 ล้านบัญชี จนถึงเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. ปีที่แล้ว


สำหรับความเคลื่อนไหวของดิสนีย์ในครั้งนี้ เป็นการปรับโครงสร้างครั้งที่สามในรอบ 5 ปี หรือต่อจากปี 2561 และ 2563 เพื่อขับเคลื่อนนโยบายการแข่งขันในตลาดสตรีมมิ่ง ส่วนการปลดพนักงานครั้งใหญ่ของดิสนีย์ก่อนหน้านี้ เกิดขึ้นเมื่อปลายปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงการแพร่ระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 โดยเป็นการเลิกจ้าง 32,000 คน ส่วนใหญ่เป็นบุคลากรที่ปฏิบัติงานตามสวนสนุกหลายแห่งในโลก.

เครดิตภาพ : AFP