เมื่อวันที่ 9 ก.พ. ร.ต.อ.อำนาจ ตะเคียนราช รอง สว.(สอบสวน) สภ.บางปู จ.สมุทรปราการ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด บริเวณโรงงานย่านซอยโรงน้ำแข็งศรีชัย ถนนสุขุมวิท ต.บางปู อ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม ภายหลังจากมูลนิธิได้รับการร้องเรียนว่ามีแรงงานต่างด้าวใช้ไม้ทุบหัวสุนัขจนเสียชีวิต ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะนำสุนัขไปทำอาหาร ต่อมามูลนิธิได้รวบร่วมหลักฐานจากภาพวงจรปิดเข้าแจ้งความกับตำรวจเพื่อให้ช่วยเร่งติดตามตัวกลุ่มแรงงานต้องสงสัยมาดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์

ที่เกิดเหตุนอกจากจะมีโรงงานแล้ว บางจุดยังเป็นป่ารกทึบ และมีสุนัขจรจัดอาศัยอยู่หลายสิบตัว ส่วนที่เกิดเหตุนั้นพบว่า อยู่บริเวณต้นซอยซึ่งเป็นที่อาศัยของสุนัขชื่อ กะทิ โดย นางสาวรัตติยา เตียวตระกูล เจ้าหน้าที่วอชด็อก ให้ข้อมูลว่า กะทิ เป็นสุนัขจรจัดเคยถูกรถชนจนขาพิการ ที่ผ่านมาจะมีคนรักสัตว์แวะเวียนกันมาคอยช่วยเหลือและให้อาหารเป็นประจำ กระทั่งเมื่อวันเสาร์ที่ 4 ก.พ. คนดูแลพบว่ากะทิหายไป จึงไปขอดูกล้องวงจรปิดจากโรงงานในย่านนั้น พบว่ามีชายสองคนคาดว่าเป็นแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา ใช้ไม้ทุบตีกะทิก่อนที่จะช่วยกันอุ้มเอากะทิออกไป

หลังได้รับการร้องเรียน มูลนิธินิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ จึงรีบลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรอยเลือดตรงที่กะทินอน ลุยเข้าป่าไปตามทางเดินป่าที่จะไปทะลุอีกซอยหนึ่งซึ่งเป็นย่านบ้านพักคนงานต่างด้าว พบแพมเพิร์สที่กะทิใส่ และผ้าเปื้อนเลือด คาดว่าเป็นผ้าที่แรงงานต่างด้าวใช้มาอุ้มกะทิหลังจากทุบหัวกะทิจนตาย นอกจากนี้ยังพบเศษขนบนผ้า รวมทั้งพบเศษกระดูกถูกทิ้ง หลังได้รับแจ้ง พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.บางปู มอบหมายให้พนักงานสอบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับทีมงาน หลังจากนี้ทางมูลนิธิฯ จะนำป้ายมาติดประกาศบริเวณดังกล่าว เพื่อเตือนว่าการกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในประเทศไทย ส่วนเจ้ากระทินั้น พบว่ามาอาศัยอยู่นานกว่า 1 ปีแล้วก่อนที่จะหายไป ทั้งนี้ ตนเองก็ยังมั่นใจว่ากะทิถูกฆ่าก่อนที่จะถูกอุ้มไปประกอบอาหาร

พนักงานบริษัทน้ำแข็งรายหนึ่ง กล่าวว่า สุนัขจรที่อาศัยอยู่ในซอยนี้เยอะมากจนต้องประสานทางเทศบาลเข้ามาดูแลเรื่องทำหมันให้สุนัขเพื่อตัดวงจร จนปัจจุบันจำนวนสุนัขลดลง ทั้งนี้ตนเองก็คิดว่าส่วนหนึ่งมาจากการทำหมัน แต่กรณีที่มีข่าวว่ามีแรงงานต่างด้าวมาอุ้มสุนัขไปทำอาหารนั้นตนเองก็ไม่ทราบ กระทั่งมีข่าว

เบื้องต้นหลังจากเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบวงจรปิดพบว่า มีชายสองคนแบกถุงกระสอบผ่านเข้าไปภายในซอย ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ว่า ภายในเป็นสุนัขที่หายไปหรือไม่ จากนี้จะได้ติดตามตัวชายทั้งสองคนที่ปรากฏในภาพมาสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวของหรือไม่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป.