สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงออตตาวา ประเทศแคนาดา เมื่อวันที่ 12 ก.พ. ว่า นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด กล่าวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า เครื่องบินขับไล่ของสหรัฐและแคนาดาร่วมกันติดตามสังเกตการณ์ และสะกดรอย “วัตถุปริศนา” ซึ่งลอยตัวอยู่เหนือดินแดนยูคอน ทางตะวันตกสุดของแคนาดา ติดกับรัฐอะแลสกาของสหรัฐ หลังจากนั้น เครื่องบินขับไล่เอฟ-22 ของสหรัฐ ปล่อยขีปนาวุธเพื่อทำลายวัตถุดังกล่าว หลังจากนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองประเทศจะร่วมกันเก็บกู้วัตถุชิ้นนั้น เพื่อนำมาตรวจสอบว่า คืออะไรกันแน่


เหตุการณ์ที่แคนาดาเกิดขึ้นเพียงวันเดียว หลังครื่องบินขับไล่เอฟ-22 ของสหรัฐยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้จากอากาศสู่อากาศ แบบติดตามความร้อน “เอไอเอ็ม-9เอ็กซ์” ทำลาย “วัตถุต้องสงสัย” ซึ่งมีขนาดประมาณ “รถยนต์ขนาดเล็ก” ระหว่างที่วัตถุดังกล่าวกำลังลอยอยู่เหนือเขตชุมชน ของรัฐอะแลสกา เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยรัฐบาลวอชิงตันให้เหตุผลว่า การที่วัตถุลอยอยู่ที่ระดับความสูงประมาณ 12,000 เมตร เหนือพื้นดิน ไม่มีการแสดงตัวตนอย่างเป็นทางการ และ “ไม่มีมนุษย์ควบคุม” ถือเป็นอันตรายต่ออากาศยานของพลเรือน


ทั้งนี้ วัตถุชิ้นนั้น มีขนาดเล็กกกว่าวัตถุซึ่งรัฐบาลวอชิงตันเชื่อมั่นว่าเป็น “บอลลูนสอดแนม” ของจีน และกองทัพสหรัฐยิงทำลาย ระหว่างที่บอลลูนลอยอยู่เหนือทะเลในรัฐเซาท์แคโรไลนา เมื่อช่วงต้นเดือนนี้


ในอีกด้านหนึ่ง สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐผ่านมติด้วยเสียงสนับสนุนเป็นเอกฉันท์ ประณามการส่งบอลลูนสายลับของจีน ขณะที่ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐออกแถลงการณ์ ขึ้นบัญชีดำบริษัทของจีน 6 แห่ง ฐานสนับสนุนแทคโนโลยีทางทหาร โดยเฉพาะโครงการพัฒนา “วัตถุลอยอยู่ในอากาศ” ทั้งเรือเหาะและบอลลูน ซึ่งมีวัตุประสงค์ชัดเจนว่า “เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองและการสอดแนม” ภายใต้การกำกับดูแลของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ( พีแอลเอ ).

เครดิตภาพ : REUTERS