สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี เมื่อวันที่ 13 ก.พ. ว่า สื่อท้องถิ่นหลายแห่งของตุรกีรายงานว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยของตุรกีและนานาชาติร่วมกันให้ความช่วยเหลือ น.ส.ซิเบล คายา วัย 40 ปี ออกจากภายใต้ซากปรักหักพัง ในเมืองกาเซียนเทป ทางตอนใต้ของประเทศ โดยหญิงคนดังกล่าวติดอยู่เบื้องล่างนานกว่า 170 ชั่วโมง

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่สามารถติดต่อกับผู้รอดชีวิตอีกอย่างน้อย 3 คน ในบริเวณนั้น เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นมารดาของคายา เด็กหญิงและทารกอีกคนหนึ่ง ตอนนี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างเร่งนำซากปรักหักพังออก เพื่อเข้าให้ถึงตัวผู้ประสบภัยทั้งสามคนโดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของตุรกีรายงานจำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุธรณีพิบัติภัย ในภูมิภาคทางตะวันออกเฉียงใต้ และภาคใต้ของประเทศ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 ก.พ. ที่ผ่านมา เพิ่มเป็นอย่างน้อย 29,605 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกมากกว่า 80,000 คน

ด้านสหประชาชาติ (ยูเอ็น) รายงานจำนวนผู้เสียชีวิตในซีเรียเพิ่มเป็นอย่างน้อย 4,300 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกมากกว่า 7,600 คน ทำให้สถิติผู้เสียชีวิตรวมทั้งสองประเทศอยู่ที่อย่างน้อย 33,905 ราย

อนึ่ง นายมาร์ติน กริฟฟิธส์ ผู้ช่วยด้านกิจการมนุษยธรรมของเลขาธิการยูเอ็น ยอมรับการส่งมอบความช่วยเหลือในซีเรียเป็นไปอย่างล่าช้า เนื่องจากเป็นพื้นที่สงคราม และความขัดแย้งระหว่างคู่กรณีในพื้นที่ยังคงรุนแรง นอกจากนี้ องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) แสดงความวิตกกังวล เกี่ยวกับการเกิดโรคระบาดในพื้ที่ประสบภัยของซีเรีย โดยเฉพาะ อหิวาตกโรค และโควิด-19

สำหรับปาฏิหาริย์ในการค้นพบผู้รอดชีวิตยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยของตุรกีและจีน ให้ความช่วยเหลือหญิงวัย 56 ปี ซึ่งติดอยู่ภายใต้ซากปรักหักพังที่เมืองอันตักยา นานกว่า 156 ชั่วโมง นอกจากนั้น ยังมีทารก เด็กเล็ก และผู้ใหญ่ได้รับความช่วยเหลือออกมาอีกหลายสิบคน

ด้านกระทรวงมหาดไทยของตุรกีรายงาน บ้านเรือนและอาคารรวมอย่างน้อย 12,141 แห่ง ในอย่างน้อย 10 จังหวัด พังทลายหรือได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงจากแผ่นดินไหว ซึ่งเจ้าหน้าที่เตรียมดำเนินคดีกับบุคคลอย่างน้อย 131 คน ฐานมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคารที่ไม่ได้มาตรฐาน และการลักลอบต่อเติมอาคาร.

เครดิตภาพ : AFP