เมื่อวันที่ 25 ส.ค นายธนากฤต สุพิทิพย์ อายุ 42 ปี เจ้าของกิจการปะยางรถยนต์ ริมถนนกระทิงลาย-ระยอง ฝั่งขาเข้าพัทยา ต.หนองเกตุน้อย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อม ด.ช.เอ (นามสมมุติ) บุตรชายวัย 14 ปี เข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชนว่า ช่วงกลางดึกวันที่ 22 ส.ค. ที่ผ่านมา บุตรชายถูกกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจอาสา สังกัด สภ.บางละมุง รุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่ถนนเส้นโรงโป๊ะ ต.บางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

โดยเหตุการณ์ดังกล่าว ด.ช.เอ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุขณะนั้นเวลาประมาณ 24.00 น. ได้ขี่รถจักรยานยนต์เพื่อนำกาแฟไปให้แม่ที่ทำงานซึ่งเป็นพนักงานเก็บขยะของเมืองพัทยา ขณะนั้นที่จอดรถจยย. รออยู่ถนนฝั่งตรงข้ามถนนสาย 36 กระทิงลาย-ระยอง หรือตรงข้ามบ้านพัก แต่ระหว่างทางที่ขี่รถออกมานั้นระหว่างทางไปพบเจอเข้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจอาสาจำนวน 4 นาย ขี่รถติดตามมา ด้วยความกลัวจึงรีบเร่งเครื่องหลบหนี เจ้าหน้าที่อาสาสมัครตำรวจ จึงขี่รถติดตามจนทัน และหนึ่งในกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจอาสาได้ใช้เท้าถีบรถ จยย.จนล้มลง ก่อนที่ใช้ปืนไม่ทราบชนิดมาจ่อศีรษะ และพากันรุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ

ด.ช.เอ เล่าว่า จากนั้นก็พันธนาการด้วยกุญแจมือโยงติดกับท้ายรถ จยย. ก่อนจะคุมตัวไปยังตู้ยามตำรวจหนองเกตุน้อย ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุไม่มากนัก และเมื่อพาเข้าในป้อมตำรวจก็มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจอาสาอีกนายหนึ่งใช้มือตบจนเลือดกำเดาไหล และมีบาดแผลทำให้ปากฉีก กระทั่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประจำตู้ยามได้เข้ามาพบ และได้สอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงสั่งให้ปล่อยตัวกลับบ้าน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจอาสาทั้ง 4 นายข่มขู่ว่าห้ามนำเรื่องนี้บอกคนอื่น หากบอกใครและเกิดปัญหาขึ้น จะตามจับมาดำเนินคดีให้ติดคุก 10 ปี จนสร้างความหวาดผวาเป็นอย่างมาก

ขณะที่ นายธนากฤต กล่าวว่า มีภาพจากกล้องวงจรปิดที่สามารถจับภาพขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจอาสาขี่รถไล่ติดตามไว้เป็นหลักฐานแล้ว อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคงยอมไม่ได้เพราะบุตรชายโดนทั้งการใช้เท้าถีบรถจนล้มซึ่งอาจเป็นอันตราย นอกจากนี้ยังมีการใช้ปืนจ่อศีรษะ และรุมทำร้าย โดยหลังเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ติดต่อมาขอไกล่เกลี่ยแต่ได้ปฏิเสธไป เพราะเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นกับเด็กในวัยเพียง 14 ปีเท่านั้น ที่ถือว่ารุนแรงเป็นอย่างยิ่ง จึงอยากฝากถึงต้นสังกัด สภ.บางละมุง ให้ดำเนินการจัดการเรื่องนี้อย่างเด็ดขาดด้วย ขณะที่ส่วนตัวแล้วยืนยันว่าจะต้องดำเนินคดีตามกระบวนการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด.