เมื่อเวลา 14.10 น. วันที่ 16 ก.พ. นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในวันนี้ตนจะอภิปรายเรื่องความไม่โปร่งใสโครงการระบบท่อน้ำอีอีซี ภาค 2 เพื่อเน้นย้ำว่าการประมูลท่อน้ำอีอีซีของกรมธนารักษ์ไม่โปร่งใส โดยในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสมัยประชุมที่ 2/2565 ตนและพรรคเพื่อไทยเคยอภิปรายในเรื่องดังกล่าวว่า เป็นการคัดเลือกเอกชนที่ไม่โปร่งใส ทำให้ประชาชนเดือดร้อนจ่ายค่าน้ำแพง ซึ่งตอนแรก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ยับยั้งการเซ็นสัญญาในโครงการดังกล่าว แต่เมื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาการนายกฯ ได้ปล่อยให้มีการเซ็นสัญญาในโครงการดังกล่าว ระหว่างกรมธนารักษ์และบริษัท วงศ์สยามก่อสร้าง มูลค่า 2.5 หมื่นล้านบาท แต่ผู้รับจ้างที่ได้สัญญากลับทำงานไม่ได้ และจะขายช่วงงาน โดยมีการร่วมกับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง จัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับบริษัทวงศ์สยามก่อสร้าง ซึ่งตามสัญญาบริษัทวงศ์สยามไม่สามารถให้ช่วงสิทธิในการบริหารและการดำเนินการโครงการแก่ผู้อื่น เว้นแต่จะได้รับความเห็นชอบเป็นหนังสือจากคู่สัญญาฝ่ายรัฐก่อน ดังนั้นการที่บริษัท วงศ์สยามก่อสร้าง จัดตั้งบริษัทใหม่เพื่อเข้ามาบริหารโครงการ จึงเป็นการกระทำที่ขัดต่อสัญญา เสมือนเป็นการเปลี่ยนตัวคู่สัญญา ซึ่งไม่สามารถกระทำได้
สรุปได้ว่ากระบวนการคัดเลือกเอกชนบิดเบี้ยว ผิดวัตถุประสงค์ เพราะไม่มีการเกิดประมูลทั่วไปให้บริษัทใหญ่เข้าร่วมประมูลได้ ทำให้ประชาชนเดือดร้อนต้องจ่ายค่าน้ำแพง ลดทอนการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมในอีอีซี เพราะนายกฯ ไปชวนนักลงทุนจากทั่วโลกมาลงทุนในอีอีซี แต่กลับต้องซื้อน้ำแพงขึ้น เนื่องจากไม่เคยมีคณะกรรมการกำกับราคาน้ำ หลังจากบริษัท วงศ์สยามก่อสร้าง ได้สัญญามีการกำหนดราคาน้ำภาคอุตสาหกรรมสูงขึ้นอีก 1 บาท ต่อลูกบาศก์เมตร ทำให้ได้กำไร 4,300 ล้านบาท ทำให้บริษัทเอกชนได้รับความเดือดร้อน ดังนั้นนายสันติ จึงสร้างความเสียหายให้กับโครงการท่อส่งน้ำสายหลักในอีอีซี โดยไม่เปิดให้มีการประมูลแข่งขัน ซึ่งเป็นเรื่องผิดกฎหมาย หนี พ.ร.บ.ร่วมทุน ทั้งที่โครงการดังกล่าวมีมูลค่าเกิน 5 พันล้านบาท นอกจากนั้นยังเอื้อประโยชน์ให้เอกชนที่ไม่มีศักยภาพเข้ามาฟันกำไร และยังทำให้ค่าน้ำแพงสร้างความเสียหายให้ภาคประชาชนและอุตสาหกรรมในพื้นที่อีอีซี
นายยุทธพงศ์ ยังอภิปรายอีกว่า การพยากรณ์อากาศที่ผิดพลาดของกรมอุตุนิยมวิทยาคือสาเหตุทำให้เรือรบหลวงสุโขทัยล่ม เพราะนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แต่งตั้งข้าราชการไม่มีคุณสมบัติมาบริหารราชการ ก่อให้เกิดความเสียหาย จนเรือรบหลวงสุโขทัยต้องมาล่มเพราะการพยากรณ์อากาศที่ผิดพลาด ทำให้ทหารต้องเสียชีวิต ดังนั้นนายชัยวุฒิต้องตอบว่า ทำไมถึงเอาอธิบดีที่ไม่มีความรู้เรื่องอุตุนิยมวิทยามาเป็นอธิบดี ทั้งนี้จากคำพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ในวันที่ 18 ธ.ค. 65 พยากรณ์เรื่องคลื่นลมกว้างๆ ไม่ระบุบริเวณที่มีคลื่นสูง รวมทั้งไม่มีการแจ้งเตือนบริเวณ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นจุดที่เรือล่ม นอกจากนั้นยังมีข้อมูลจากกองทัพเรือว่าในวันที่ 18 ธ.ค. มีเรือที่จมทั้งหมด 7 ลำ ไม่ใช่แค่เรือรบหลวงสุโขทัย ซึ่งแสดงถึงการพยากรณ์ที่ผิดพลาดจนเกิดความสียหาย
รัฐมนตรีบริหารราชการผิดพลาด เอาคนไม่มีความรู้มาดำรงตำแหน่งสำคัญ พยากรณ์ผิดพลาด ทำให้เรือรบหลวงสำคัญของประเทศล่ม จึงอยากให้นายชัยวุฒิมาตอบว่าบริหารงานอย่างไร คนที่มีความรู้ความสามารถทำไมไม่เอามาใช้ แล้วจะรับผิดชอบกับความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างไร เพราะทำให้เกิดความเสียหายทั้งเงินภาษีและชีวิตทหาร อย่างไรก็ตามสรุปได้ว่า นายชัยวุฒิจงใจปฏิบัติตหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติต่อรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย มีความประพฤติเสื่อมเสียทางศีลธรรมอันดี ฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง และขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ ปลดนายชัยวุฒิจากตำแหน่งรัฐมนตรี.