เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย นายวิรัช รัตนเศรษฐ และนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แถลงข่าวเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคพลังประชารัฐ จำนวน 15 คน ประกอบด้วย 1.นายเข็มทอง แก้วเนตร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 5 อุบลราชธานี 2.นายนิวัฒน์ จำปาทอง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 9 อุบลราชธานี 3.นายศุภโชค ฐานเจริญ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 10 อุบลราชธานี 4.นายยิ่ง ภูผา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 11 อุบลราชธานี 5.นายมานพ แสงคำ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 สุรินทร์ 6.นางศรัณยา สุวรรณพรหม ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 หนองบัวลำภู 7.นายพิษณุ เขื่อนเพชร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 เชียงราย 8.นายวัชระพงศ์ ปิโย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 เชียงราย 9.นายบดินทร์ กินาวงษ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 8 เชียงใหม่

10.นายสุชาติ ไตรแสงรุจิระ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 นครสวรรค์ 11.นายวรโชติ สุคนธ์ขจร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 4 เพชรบูรณ์ 12.นายจักรพงษ์ ทิมมณี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 4 นครปฐม 13.พล.อ.ท.ชลนนาถ เทพลิบ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 เพชรบุรี 14.นายทัตณัชพงษ์ เติมวรรธนภัทร์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 3 เพชรบุรี และ 15.นายกานต์ เพชรบูรณ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 พังงา

โดย นายวิรัช กล่าวว่า การเปิดตัววันนี้ 15 คน หลายคนสงสัยว่าทำไมเปิดบ่อย และเปิดไล่ๆกัน ซึ่งส่วนไหนขาดเป็นสิ่งที่เราต้องเติมเต็มในหลายจังหวัด อย่างไรก็ตาม อยากให้ผู้สมัครที่มายืนอยู่วันนี้เอานโยบายไม่ว่าจะเป็นบัตรสวัสดิการ 700 บาท หรือเรียกสั้น ๆ ว่า ป้อม 700 บาท หรือนโยบายอื่น ๆ ที่เปิดไปก่อนหน้านี้ รวมทั้งนโยบายที่กำลังจะไหลตามออกมาอีกหลายนโยบาย อยากให้บรรดาผู้สมัครสานฝันให้กับพี่น้องโดยเป็นตัวเชื่อมประชาชนกับพรรคพลังประชารัฐและรัฐบาล ซึ่งนำโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฟบ ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป

ด้าน นายไพบูลย์ กล่าวว่า เรามีความมั่นใจว่า ว่าที่ ส.ส.ของพรรคทุกคนมีคุณสมบัติมีความสามารถให้ประชาชนได้เลือกมาเป็น ส.ส. ซึ่งทั้ง 15 คน ที่เปิดตัวในวันนี้มาจาก 10 จังหวัด เป็นตัวแทนของ 4 ภาคในจังหวัดต่าง ๆ ที่จะเป็นขุนศึกเป็นกำลังสำคัญของพรรคพลังประชารัฐในการเข้าสู่การเลือกตั้งทั่วไปที่กำลังจะเกิดขึ้น ตนเชื่อว่าด้วยนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ด้วยความคิดหลักการอุดมการณ์ของ พล.อ.ประวิตร ที่ให้ไว้คือ การก้าวข้ามความขัดแย้ง ขจัดทุกปัญหา พัฒนาทุกพื้นที่ ซึ่งเป็นหลักคิดที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้ผู้สมัครมีโอกาสเป็น ส.ส.

“จากการสำรวจความคิดเห็นทั้งหลาย รวมทั้งการวิเคราะห์ทางการเมืองและสื่อมวลชน พรรคพลังประชารัฐจะเป็นรัฐบาลอย่างแน่นอน และที่สำคัญพรรคพลังประชารัฐจะได้หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐคือ พล.อ.ประวิตร หรือลุงป้อม เป็นนายกรัฐมนตรีท่านที่ 30 อย่างแน่นอน เรามั่นใจ ขอปรบมือให้กับนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 อีกครั้ง”นายไพบูลย์ กล่าว

ขณะที่ นายสันติ กล่าวว่า วันนี้ตนขอเสนออีกนโยบายที่ผ่านคณะกรรมการไปแล้วเมื่อวันที่ 21 ก.พ. ที่ผ่านมา คือเรื่องการดูแลสตรีทุกช่วงวัยทั้งประเทศ ”แม่ บุตร ธิดา รัฐประชารัฐ “ ทุกคนคงทราบอยู่แล้วว่าสตรีของประเทศไทยเรามีถึง 34 ล้านคน ดังนั้นพรรคพลังประชารัฐ จึงมีนโยบายดูแลสตรีเป็นพิเศษ สตรีเป็นเพศแม่ของเราเวลามีบุตรก็จะเป็นห่วงว่า จะทำอย่างไรจะมีศักยภาพในการเลี้ยงบุตรได้ดี เราจึงได้คลอดนโยบายออกมาในการดูแลสตรีในขณะตั้งครรภ์ โดยเมื่อตั้งครรภ์เดือนที่ 5-9 ก่อนคลอดบุตรออกมา เราจะสนับสนุนให้ความช่วยเหลือเดือนละ 10,000 บาท เป็นเวลา 5 เดือน และหลังจากที่คลอดบุตรออกมาแล้ว ก็จะให้ความช่วยเหลือในการเลี้ยงบุตรอีกเดือนละ 3,000 บาท เป็นเวลา 6 ปี

นายสันติ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้เพื่อเป็นการทำให้ประชาชนครอบครัวและสตรี ให้มีความมั่นใจมีความสบายใจว่าพรรคพลังประชารัฐมีความตั้งใจที่จะดูแลสตรีให้มีขวัญและกำลังใจในการช่วยกันเพิ่มประชากร เพราะขณะนี้การเกิดของประชากรไทยต่ำกว่าเป้าหมาย มีอัตราการเกิดเพียง 500,000 กว่าคน จากมาตรฐาน 800,000 คนเศษ จึงอาจก่อให้เกิดปัญหาขาดแคลนแรงงานในอนาคต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการแถลงเปิดตัวผู้สมัครและนโยบายดังกล่าวแล้ว นายสันติ และนายวิรัช พร้อมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สตรี ได้ร่วมเต้นท่าเปิดตัวนโยบาย “เบี้ยผู้สูงอายุ 3 4 5 6 7 8” แนะนำให้ใช้หาเสียงอย่างสนุกสนาน โดยนายวิรัช ระบุว่า จะนำท่าเต้นดังกล่าวไปสอน พล.อ.ประวิตร ต่อไป.